Page 174 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 174
150
11) ค าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 10/2549
ประเด็นเกี่ยวกับหลักความเทําเทียมกันและการเลือกปฏิบัติที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในคดีนี้คือ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพํง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ขัดหรือแย๎งตํอรัฐธรรมนูญ มาตรา 272
ประกอบมาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 29 มาตรา 30 และมาตรา 233 หรือไมํ
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล๎วเห็นวํา มาตรา 3 มาตรา 4 เป็นบทบัญญัติในหมวด 1 บททั่วไป
รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 เป็นบทบัญญัติที่วําด๎วยอ านาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งประกอบด๎วย
อ านาจนิติบัญญัติ อ านาจบริหาร อ านาจตุลาการ พระมหากษัตริย์ทรงใช๎อ านาจนั้นทางรัฐสภา
คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 4 เป็นบทบัญญัติรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และ
เสรีภาพของบุคคลยํอมได๎รับความคุ๎มครอง รัฐธรรมนูญ มาตรา 29 เป็นบทบัญญัติวางหลักประกันความ
มั่นคงแหํงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว๎จะถูกจ ากัดมิได๎ เว๎นแตํโดยอาศัยอ านาจตาม
บทบัญญัติแหํงกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญก าหนดไว๎และเทําที่จ าเป็นเทํานั้น และจะ
กระทบกระเทือนสาระส าคัญแหํงสิทธิและเสรีภาพเป็นการวางหลักคุ๎มครองสิทธิเสรีภาพข๎องบุคคลไว๎ ถ๎า
รัฐสภาจะตรากฎหมายมาจ ากัดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน กระท าได๎ภายใต๎หลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญ
ก าหนดเทํานั้น ทั้งต๎องมีผลใช๎บังคับเป็นการทั่วไปและไมํมุํงหมายให๎ใช๎บังคับแกํกรณีใดกรณีหนึ่ง หรือแกํ
บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง รัฐธรรมนูญมาตรา 30 เป็นบทบัญญัติมี่ให๎ความคุ๎มครองสิทธิเสรีภาพ
ของชนชาวไทยให๎มีความเสมอภาคกันตามกฎหมายและได๎รับความคุ๎มครองที่เทําเทียมกัน ประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพํง มาตรา 236 เป็นบทบัญญัติให๎สิทธิแกํคูํความยื่นค าร๎องอุทธรณ์ค าสั่งของ
ศาลชั้นต๎นที่ปฏิเสธไมํยอมรับอุทธรณ์ตํอศาลอุทธรณ์ หากเห็นวําค าสั่งของศาลชั้นต๎นไมํชอบด๎วยกฎหมาย
เป็นบทบัญญัติที่บังคับใช๎โดยทั่วไป
ดังนั้น มาตรา 236 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพํงจึงไมํขัดหรือแย๎งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา
3 มาตรา 4 มาตรา 29 และมาตรา 30 รัฐธรรมนูญ และมาตรา 233
12) ค าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 15/2549
66
ผู๎ร๎องกับพวกอ๎างวํา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพํง มาตรา 156 บัญญัติให๎คูํความที่มี
ฐานะยากจนมีสิทธิจะฟูองหรือตํอสู๎คดีทางศาลได๎ โดยให๎ศาลมีค าสั่งยกเว๎นคําธรรมเนียมเพื่อให๎โอกาส
คูํความได๎ตํอสู๎คดีถึงที่สุด ทั้งนี้หากกฎหมายก าหนดให๎คูํความจะต๎องช าระคําฤชาธรรมเนียมศาลทุกกรณี
แล๎วจะเป็นการตัดสิทธิหรือปิดโอกาสผู๎ซึ่งมีฐานะยากจนไมํมีเงินเพียงพอหรือไมํมีทรัพย์สินอื่นใดที่จะน ามา
ช าระคําธรรมเนียมศาลต๎องถูกจ ากัดสิทธิ การที่ศาลชั้นต๎นมีค าสั่งไมํรับฎีกาจึงเป็นการตัดสิทธิผู๎ร๎องกับพวก
66
คดีนี้ตัดสินกํอนมีการแก๎ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพํง ทั้งนี้ตํอมาในปี 2551 มาตรา 156 ได๎มีการแก๎ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก๎ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพํง (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2551 โดยหลักการ
เกี่ยวกับการอุทธรณ์ค าสั่งปรากฏในมาตรา 156/1 ดังนี้ “ในกรณีที่ศาลมีค าสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่
เฉพาะบางส่วน หรือมีค าสั่งให้ยกค าร้อง ผู้ขออาจอุทธรณ์ค าสั่งนั้นต่อศาลได้ภายในก าหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีค าสั่ง
ค าสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด”