Page 170 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 170
146
ข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 มาตรา 33 (11) เป็นไปตามความจ าเป็นและความเหมาะสมของฝุาย
อัยการ จึงเห็นวํา บทบัญญัติของพระราชบัญญัติ ระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 มาตรา 33
(11) ดังกลําวเป็นลักษณะตามข๎อยกเว๎นของรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 ซึ่งไมํกระทบกระเทือนถึงสาระส าคัญ
แหํงสิทธิและเสรีภาพ มีผลใช๎บังคับเป็นการทั่วไป และไมํมุํงหมายให๎ใช๎บังคับแกํกรณีใดกรณีหนึ่ง หรือแกํ
บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง และไมํเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรม ตามรัฐธรรม-
นูญ มาตรา 30 แตํอยํางใด
ศาลรัฐธรรมนูญจึง วินิจฉัยตามเสียงข๎างมาก 12 เสียง วํา พระราชบัญญัติ ระเบียบข๎าราชการฝุาย
อัยการ พ.ศ. 2521 มาตรา 33 (11) ไมํขัดหรือแย๎งตํอ รัฐธรรมนูญ มาตรา 30
(หมายเหตุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข๎างน๎อย จ านวน 3 คน เห็นวํา พระราชบัญญัติ ระเบียบ
ข๎าราชการ ฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 มาตรา 33 (11) เฉพาะค าวํา "มีกาย...ไมํเหมาะสมที่จะเป็นข๎าราชการ
อัยการ" ขัดตํอรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 เนื่องจาก เป็นบทบัญญัติที่เปิดโอกาสให๎ใช๎ดุลพินิจอยําง กว๎างขวาง
ซึ่งเป็นการเกินขอบเขตโดยอ๎างเหตุตามความเหมาะสมแทนความสามารถ)
5) ค าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 48/2545
ผู๎ร๎องเป็นโจทก์ยื่นฟูองกรมสรรพากร เป็นจ าเลยตํอศาลภาษีอากรกลาง โดยอ๎างเหตุผลตามค าฟูอง
วํา เจ๎าพนักงานประเมินกรมสรรพากรมีหนังสือแจ๎งภาษีเงินได๎บุคคลธรรมดา ประเมินให๎ผู๎ร๎องเสียภาษีเงิน
ได๎ประจ าปี 2540 และปี 2539 เพิ่ม รวมเป็นเงิน 112,663 บาทและ 37,319 บาท โดยอ๎างเหตุวําผู๎ร๎อง
ต๎องน าเงินได๎ของภริยา ซึ่งเป็นรายได๎อื่นที่ไมํใชํรายได๎ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1) มารวมค านวณ
เป็นเงินได๎ของผู๎ร๎อง ผู๎ร๎องได๎ยื่นอุทธรณ์คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ได๎ยกอุทธรณ์ผู๎ร๎อง โดยให๎เหตุผล
วํา ผู๎ร๎องเป็นสามี มีหน๎าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได๎บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) โดยน าเงินได๎พึง
ประเมินของภริยาซึ่งมิใชํเงินได๎พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) ที่ประสงค์แยกยื่นแบบแสดงรายการมารวม
เป็นเงินได๎ของผู๎ร๎องด๎วยโดยให๎ผู๎ร๎องเสียภาษีและเงินเพิ่ม ทั้งสองฉบับรวม 129,019.90 บาท การที่ให๎น า
เงินได๎ของภริยาผู๎ร๎องมารวมกับเงินได๎ของผู๎ร๎องเอาไปค านวณภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 57 ตรี กับ
ที่ มาตรา 57 เบญจ ได๎ก าหนดให๎ภริยาเทํานั้น ที่มีสิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษี เฉพาะสํวนที่เป็นเงินได๎
พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) โดยยอมให๎ถือเป็นเงินได๎ของสามีตามมาตรา 57 ตรี การไมํก าหนดให๎สามีมี
สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีตํางหาก เฉพาะสํวนที่เป็นเงินได๎พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) ด๎วยจึงเป็น
กฎหมายที่เลือกปฏิบัติตํอบุคคล เพราะเหตุแหํงความแตกตํางในเรื่องเพศ ผู๎ร๎องเห็นวําบทบัญญัติแหํง
ประมวลรัษฎากร มาตรา 57 ตรี และมาตรา 57 เบญจ เป็นกฎหมายที่ท าให๎บุคคลไมํเสมอกันในกฎหมาย
และไมํได๎รับความคุ๎มครองตามกฎหมายเทําเทียมกัน ท าให๎ชายและหญิงมีสิทธิไมํเทําเทียมกัน จึงขัดหรือ
แย๎งตํอรัฐธรรมนูญ มาตรา 30
พิจารณาประมวลรัษฎากร มาตรา 57 ตรี แล๎ว แม๎เป็นบทบัญญัติแหํงกฎหมายที่กระทบตํอสิทธิใน
ทรัพย์สินของบุคคล ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 48 วรรคหนึ่ง บัญญัติไว๎ แตํ การตรากฎหมายจ ากัดสิทธิใน
ทรัพย์สินของบุคคลก็สามารถท าได๎ภายใต๎เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 29 มาตรา 30 และมาตรา 48