Page 168 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 168

144


                  ไว๎จะกระท ามิได๎ เว๎นแตํโดยอาศัยอ านาจตามบทบัญญัติแหํงกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญ นี้ก าหนด

                  ไว๎และเทําที่จ าเป็นเทํานั้น และจะกระทบกระเทือนสาระส าคัญแหํงสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได๎ และวรรคสอง
                  บัญญัติรับรองไว๎วํา กฎหมายตามวรรคหนึ่งต๎องมีผลใช๎บังคับเป็นการทั่วไปและไมํมุํงหมาย ให๎ใช๎บังคับแกํ

                  กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแกํบุคคลใด บุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง ทั้งต๎องระบุบทบัญญัติแหํง รัฐธรรมนูญ ที่ให๎

                  อ านาจในการตรากฎหมายนั้นด๎วย ซึ่งบทบัญญัติวรรคหนึ่งและวรรคสองให๎น ามาใช๎ บังคับกับกฎหรือ
                  ข๎อบังคับที่ออกโดยอาศัยอ านาจตามบทบัญญัติแหํงกฎหมายด๎วย โดยอนุโลม และ ตามพระราชบัญญัติ

                  ระเบียบข๎าราชการฝุายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 26 (10) ค าวํา “มีกาย ... ไมํเหมาะสมที่จะ

                  เป็นข๎าราชการตุลาการ”  จะใช๎ควบคูํกับ มาตรา 26 (11) ที่บัญญัติวํา “เป็นผู๎ที่ผํานการตรวจรํางกายและ
                  จิตใจโดยคณะกรรมการแพทย์จ านวนไมํน๎อยกวํา สามคน ซึ่ง ก.ต. ก าหนด และ ก.ต. ได๎พิจารณารายงาน

                  ของคณะกรรมการแพทย์แล๎วเห็นวํา สมควรรับสมควรได๎ บทบัญญัติของพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการ
                  ฝุายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 26 (10) เป็นไปตามความจ าเป็นและความเหมาะสมของฝุาย

                  ตุลาการจึงเห็นวํา บทบัญญัติของพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการฝุายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543
                  มาตรา 26 (10) ดังกลําว เป็นลักษณะตามตามข๎อยกเว๎นของรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช

                  2540 มาตรา 29 ซึ่งไมํกระทบกระเทือนถึงสาระส าคัญแหํงสิทธิและเสรีภาพมีผลใช๎บังคับเป็นการทั่วไปและ

                  ไมํมุํงหมายให๎ใช๎บังคับแกํกรณีใดกรณีหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจงและไมํเป็นการเลือก
                  ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 30



                         4) ค าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 44/2545
                         นาย ศ ผู๎ฟูองคดี อายุ 33  ปี อาชีพทนายความ ได๎สมัครสอบคัดเลือกเพื่อ บรรจุเป็นข๎าราชการ

                  อัยการในต าแหนํงอัยการผู๎ชํวย ประจ าปี 2544 เมื่อคณะกรรมการอัยการ (ผู๎ถูกฟูองคดี) ประกาศรายชื่อผู๎
                  มีสิทธิสอบ ปรากฏวําไมํมีชื่อผู๎ฟูองคดี ผู๎ฟูองคดีจึงยื่นหนังสือถึงผู๎ถูกฟูองคดีเพื่อขอทราบเหตุผลที่ไมํได๎รับ

                  การพิจารณาให๎เป็นผู๎มีคุณสมบัติในการสอบคัดเลือกดังกลําว คณะกรรมการอัยการชี้แจงวํา
                  คณะอนุกรรมการพิจารณาคุณสมบัติของผู๎สมัครสอบคัดเลือกดังกลําว ได๎รับรายงานผลการตรวจรํางกาย

                  จากคณะกรรมการแพทย์วํา ผู๎ฟูองคดีมีรูปกายพิการ เดินขากะเผลก กล๎ามเนื้อแขนลีบจนถึงปลายมือทั้ง

                  สองข๎าง กล๎ามเนื้อขาลีบจนถึงปลายเท๎าทั้งสองข๎าง กระดูกสันหลังคด ได๎รับการผําตัดดามเหล็กที่กระดูกสัน
                  หลังไว๎เพื่อให๎ไหลํทั้งสองข๎างเทํากัน จึงมีมติไมํรับสมัคร เนื่องจากเป็นผู๎มีบุคลิกภาพ และรํางกายไมํ

                  เหมาะสมที่จะเป็นข๎าราชการอัยการ ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ.

                  2521 มาตรา 33 (11)
                         ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต๎องพิจารณาวินิจฉัยมีวํา พระราชบัญญัติ ระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ

                  พ.ศ. 2521 มาตรา 33 (11) ขัดหรือแย๎งตํอรัฐธรรมนูญ มาตรา30 หรือไมํ
                          พระราชบัญญัติ ระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 มาตรา 33  วรรคหนึ่ง บัญญัติวํา

                  "ผู๎สมัครสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข๎าราชการอัยการและแตํงตั้งให๎ด ารงต าแหนํงอัยการผู๎ชํวย ต๎องมี
                  คุณสมบัติดังตํอไปนี้ .... (11) ไมํเป็นคนไร๎ความสามารถ หรือคนเสมือนไร๎ความสามารถ หรือ จิตฟั่นเฟือน
   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173