Page 15 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 15
ฐ
เฉพาะบางมิติของการเลือกปฏิบัติ เช่น มิติด้านแรงงาน มิติด้านการศึกษา เป็นต้น แต่ยังไม่ครอบคลุมกรณี
ต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและการเลือก
ปฏิบัติที่กฎหมายต่างประเทศให้การคุ้มครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกปฏิบัติในมิติและเหตุแห่งการเลือก
ปฏิบัติอื่นๆ นอกขอบเขตของกฎหมายเฉพาะดังกล่าว เช่น
- การเลือกปฏิบัติในภาคเอกชน เช่น การกระท าในความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง หรือการ
เลือกปฏิบัติในบริบทอื่น เช่น การปฏิเสธการให้บริการหรือการจ าหน่ายสินค้า การจ ากัดสิทธิในการเข้าถึง
บริการหรือสถานที่ของภาคเอกชนต่างๆ หากเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติแล้วก็จัดอยู่ในขอบเขตของ
การเลือกปฏิบัติได้ จากการศึกษากฎหมายไทยที่มีอยู่ปัจจุบัน พบว่า มีปัญหากรณี การเลือกปฏิบัติใน
ภาคเอกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อสินค้า บริการ ซึ่งมีการปฏิเสธสินค้าหรือการให้บริการด้วยเหตุแห่งการ
เลือกปฏิบัติที่กฎหมายเฉพาะดังกล่าวในตารางข้างต้นไม่ครอบคลุมถึง เช่น การปฏิเสธไม่จ าหน่ายสินค้า
หรือไม่ให้บริการบุคคลด้วยเหตุเชื้อชาติ ศาสนา หรือกรณีเหตุแห่ง “ความคิดเห็นอื่นหรือความเชื่อ” หรือจาก
การสัมภาษณ์มีผู้ให้ข้อมูลว่า “ร้านนวดบางแห่งไม่ให้บริการแก่คนไทย ให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน /
เกาหลี เท่านั้น” “ร้านอาหารบางแห่งเปิดให้บริการเฉพาะทัวร์จีนเท่านั้น ลูกค้าคนไทยไม่ต้อนรับ” “บริการ
ขนส่ง รถแท็กซี่ ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารคนไทย โดยให้บริการเฉพาะชาวต่างชาติ” “รถสามล้อ ปฏิเสธไม่รับ
ผู้โดยสารคนไทย” กรณีนี้จะเห็นได้ว่า เป็นการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่ง “เชื้อชาติ หรือ สัญชาติ” ในมิติของ
3
การให้บริการ ซึ่งไม่มีกฎหมายคุ้มครองเป็นการเฉพาะ เนื่องจากไม่มีกฎหมายกลางที่ครอบคลุมการเลือก
ปฏิบัติซึ่งจะมาปรับใช้ส าหรับมิติเช่นนี้
- กรณีการสื่อสารที่ท าให้เกิดความเกลียดชังด้วยเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติต่างๆ (Hate Speech)
ดังเช่นกรณีข้อเท็จจริงจากผู้ให้สัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม เช่น มัคคุเทศก์ชาวไทย ผู้ให้ข้อมูล เห็นว่า “รู้สึกไม่ดี
ต่อมัคคุเทศก์ชาวจีน มาแย่งงาน หรือ ผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยเห็นว่า ชาวเวียดนามเข้ามาแย่งอาชีพ
ขายสินค้า กรณีทัศนคติเหล่านี้น าไปสู่การกล่าววาจาอันเป็นการคุกคาม (Harassment) ด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ
ได้ แต่ทั้งนี้ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะส าหรับพฤติกรรมดังกล่าว
- การคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ในกรณีที่เกี่ยวกับการจ้างแรงงาน โดยเฉพาะการ
คุกคามระหว่างลูกจ้างด้วยกัน และการคุกคามในลักษณะการสร้างบรรยากาศในที่ท างาน (Hostile Working
Environment) ยังไม่มีกฎหมายครอบคลุมเป็นการเฉพาะ
- การคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ในกรณีที่ไม่เกี่ยวกับมิติการจ้างแรงงาน เช่น ในมิติ
การศึกษา ดังจะเห็นได้จาก กรณีตามค าร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่มีการอ้างว่าถูกคุกคาม
ทางเพศในโรงเรียน เป็นต้น ยังไม่มีกฎหมายครอบคลุมเป็นการเฉพาะ
- การคุกคาม (Harassment) ในบริบทอื่นนอกจากการจ้างแรงงาน และในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเหตุ
อื่นนอกจากการคุกคามทางเพศ เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ความพิการ ฯลฯ ยังไม่มีกฎหมายครอบคลุมเป็นการ
เฉพาะ
เช่น ค าร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ผู้ร้องอ้างว่า “ครูประจ าชั้นที่โรงเรียนฯ
กล่าวหาว่า นางสาวเอ เป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้ ต้องน าไปบ าบัด มีฮอร์โมนผิดปกติเพราะเป็นผู้พิการ” (ค าร้อง
ที่ 476/2556) เป็นต้น หรือจากกรณีการสัมภาษณ์ที่ผู้ให้ข้อมูลถูกล้อเลียนเกี่ยวกับสภาพร่างกายจากเพื่อน
ร่วมงาน โดยการล้อเลียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร เปรียบเทียบร่างกาย (รูปร่าง
อ้วน) กับสัตว์ชนิดต่างๆ ส่งตัวการ์ตูนสติกเกอร์รูปสัตว์อ้วนรูปแบบต่างๆ มาล้อเลียนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้
3
แต่ในบางภาคธุรกิจอาจมีกฎหมายเฉพาะเช่นการรับผู้โดยสารของแท็กซี่ แต่ก็ไม่ใช่กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติตาม
ความหมายของสิทธิมนุษยชน