Page 16 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 16

ฑ


                  ในการท างาน กรณีเช่นนี้มีลักษณะเป็นการคุกคาม  (Harassment)  แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุทางเพศ และไม่มี
                  กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติที่จะครอบคลุมถึง


                         - เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติบางกรณียังอาจไม่ครอบคลุมดังที่ได้สรุปไว้แล้วข้างต้น เช่น “ความคิดเห็น
                  อื่นใด” ที่กว้างกว่าความคิดเห็นทางการเมือง และ “ความเชื่อ” ที่กว้างและไม่ผูกพันกับ “ศาสนา”  หรือใน
                  บางเหตุยังต้องมีการตีความ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ส าหรับเหตุ “การตั้งครรภ์” อาจจัดอยู่ในเหตุแห่ง “เพศ”

                  ได้ แต่ยังมีปัญหาในแง่กฎหมายที่เกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติในมิตินี้ โดยอาจมีกฎหมายบางฉบับที่เกี่ยวข้อง
                  เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน แต่ยังไม่ครอบคลุมมิติอื่น เช่น การให้บริการต่างๆ ของภาคเอกชน นอกจากนี้
                  เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติบางอย่าง กฎหมายต่างประเทศก าหนดไว้โดยเฉพาะแต่ส าหรับประเทศไทยยังไม่มี
                  การก าหนดเฉพาะเช่น ประวัติการกระท าความผิดทางอาญา  เป็นต้น  ซึ่งแม้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

                  แห่งชาติไม่พบว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือเป็นการเลือกปฏิบัติ  อย่างไรก็ตามเหตุนี้อาจยังเป็นที่
                  ถกเถียงและมีประเด็นเกี่ยวกับหลักคุณสมบัติความจ าเป็นส าหรับงานนั้นด้วย

                         ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องยังไม่ครอบคลุมการเลือกปฏิบัติในขอบเขตของกฎหมาย

                  สิทธิมนุษยชน เนื่องจากขาดกฎหมายกลางที่จะใช้กับกรณีที่นอกเหนือจากขอบเขตของกฎหมายเฉพาะ
                  ดังกล่าว อันจะน าไปสู่ข้อเสนอแนะต่อไป


                         (3) รูปแบบการบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ (Model of Discrimination Laws)

                          ผลการศึกษาวิเคราะห์หลักกฎหมายต่างประเทศ พบว่า มีรูปแบบการบัญญัติกฎหมายที่แตกต่างกัน
                  ในการวางกฎเกณฑ์เกี่ยวกับความเท่าเทียมกันและการห้ามเลือกปฏิบัติ ผู้วิจัยจึงได้ท าการจ าแนกตัวแบบ
                  (Model) ของการก าหนดกฎหมาย โดยพิจารณาจากปัจจัยส าคัญสองประการ ได้แก่ เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ

                  (Grounds of Discrimination) และ มิติของการเลือกปฏิบัติ (Area of Discrimination) ซึ่งอาจจ าแนกได้ 3
                  รูปแบบหลักดังนี้
                         รูปแบบที่ 1 บัญญัติกฎหมายเฉพาะฉบับเดียวเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ ซึ่งมีลักษณะเป็น

                  กฎหมายกลาง กล่าวคือ ครอบคลุมเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติหลายเหตุ และ ครอบคลุมมิติของการเลือกปฏิบัติ
                  หลายมิติ เช่น การตรากฎหมายสิทธิมนุษยชน วางหลักห้ามเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ อายุ เชื้อชาติ สีผิว
                  โดยครอบคลุมการเลือกปฏิบัติในมิติการจ้างแรงงาน การศึกษา การได้รับบริการและสินค้า


                         รูปแบบที่ 2 บัญญัติกฎหมายเฉพาะหลายฉบับ แต่ละฉบับครอบคลุมเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติเฉพาะ
                  บางเหตุ และครอบคลุมมิติของการเลือกปฏิบัติเฉพาะบางมิติ ส าหรับในรูปแบบนี้ ยังอาจจ าแนกพิจารณาได้
                  3 กรณีย่อย ได้แก่
                         กรณีแรก กฎหมายที่คุ้มครองเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติเพียงเหตุเดียว และ ครอบคลุมมิติของการ

                  เลือกปฏิบัติเพียงมิติเดียว เช่น กฎหมายคุ้มครองการเลือกปฏิบัติต่อคนพิการในการศึกษา กฎหมายลักษณะนี้
                  จะครอบคลุมเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติเฉพาะเหตุด้านความพิการ และ ครอบคลุมมิติของการเลือกปฏิบัติ
                  เฉพาะมิติทางการศึกษา
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21