Page 65 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 65

พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงยังไม่มีสภาพบังคับ อันเป็นการผ่อนผันให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถท�าการประมงในเขตประมงทะเล
           นอกชายฝั่งได้ จึงเห็นควรให้ยุติเรื่อง


                   อนึ่ง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตระหนักและเล็งเห็นความส�าคัญเรื่องสิทธิชุมชนและเสรีภาพในการ

           ประกอบอาชีพตามที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทย
           จะต้องปฏิบัติตามดังที่ได้กล่าวมาแล้ว จึงสมควรมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายต่อ
           หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



                   ข้อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย


                   (๑) คณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ ๑) คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ (ผู้ถูกร้องที่ ๒) และกรมประมง
           (ผู้ถูกร้องที่ ๓) ควรแก้ไขพระราชก�าหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๔ ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ได้รับอนุญาตท�าการ

           ประมงพื้นบ้าน ท�าการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง” โดยอาจน�าความในมาตรา ๔๓ วรรคสาม ของพระราชบัญญัติการ
           ประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ก�าหนดให้ผู้ท�าการประมงด้วยเครื่องมือการประมงที่มีใบอนุญาตตามมาตรา ๔๒ (ใบอนุญาตเครื่อง
           มือท�าการประมงในเขตประมงทะเลชายฝั่ง) หรือเครื่องมือท�าการประมงพื้นบ้านตามที่รัฐมนตรีประกาศก�าหนด ท�าการ
           ประมงในเขตประมงทะเลนอกชายฝั่งได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตมาปรับใช้



                   (๒) คณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ ๑) คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ (ผู้ถูกร้องที่ ๒) และกรมประมง
           (ผู้ถูกร้องที่ ๓) ควรพิจารณาแก้ไขหรือปรับปรุงบทบัญญัติของพระราชก�าหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ในส่วนที่จ�าแนก
           ชาวประมงพื้นบ้านด้วยขนาดเรือต�่ากว่า ๑๐ ตันกรอส โดยเปลี่ยนเป็นจ�าแนกประเภทการประมงพื้นบ้านตามประเภทของ

           เครื่องมือการประมงและลักษณะเฉพาะของการท�าการประมง


                   (๓)  คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ (ผู้ถูกร้องที่ ๒) และกรมประมง (ผู้ถูกร้องที่ ๓) และหน่วยงานที่
           เกี่ยวข้องควรจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการปรับปรุงพระราชก�าหนดการประมง

           พ.ศ. ๒๕๕๘ ตลอดจนการตราประกาศ กฎ หรือระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชก�าหนดการประมง
           พ.ศ. ๒๕๕๘


                   (๔) ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการท�าการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) (ผู้ถูกร้องที่ ๔) ควรออกประกาศ

           เพิ่มเติมในเรื่องการก�าหนดให้มีการจดทะเบียนเรือไทยส�าหรับการประมง ตามค�าสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
           ที่ ๑๐/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการท�าการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน
           และไร้การควบคุม เพื่อให้เรือประมงพื้นบ้านสามารถขึ้นทะเบียนเรือประมงและปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายประมง



                   (๕) กรมเจ้าท่า (ผู้ถูกร้องที่ ๕) ควรพิจารณาปรับปรุงกฎข้อบังคับส�าหรับการเดินเรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ
           เรือประมงพื้นบ้าน และวิถีชีวิตของชุมชนชายฝั่ง โดยก�าหนดระยะทางเดินเรือออกจากชายฝั่งและเกาะให้สอดคล้องกับ
           ข้อเท็จจริง รวมทั้งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และให้ชาวประมงพื้นบ้านซึ่งมีความสามารถ มีเรือได้เพียงล�าเดียว สามารถ
           จดทะเบียนเรือเพื่อประกอบอาชีพ ทั้งการประมงและการท่องเที่ยวควบคู่กันไปตามฤดูกาล ทั้งนี้ อาจก�าหนดการตรวจ

           เรือในช่วงเปลี่ยนอาชีพและมีมาตรฐานความปลอดภัยที่เพียงพอ เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านได้ปฏิบัติตามกฎหมาย
           ส่งเสริมการประกอบอาชีพ การจ้างงานในท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นเกษตรกรรายย่อย
           และป้องกันไม่ให้มีการน�าข้ออ้างเรื่องการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมาเป็นเหตุให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อชาวประมงพื้นบ้าน



            64  |  รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70