Page 60 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 60

บทที่ ๒ ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐




                กรณีตัวอย่างผลการด�าเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้


            กรณีที่  ๑  สิทธิชุมชนและสิทธิในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ
            สิ่งแวดล้อม กรณีกล่าวอ้างว่าร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... กระทบต่อสิทธิมนุษยชน



                     ประเด็นการร้องเรียน
                     ผู้ร้อง ๓ ราย ได้ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ ดังนี้                                                  บทที่ ๒
                     ผู้ร้องที่ ๑ กล่าวอ้างว่า ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแร่

            พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน
            ๒๕๕๒ มีสาระส�าคัญที่กระทบต่อสิทธิชุมชนและสิทธิการ
            มีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                     ผู้ร้องที่ ๒ ขอให้ตรวจสอบและคัดค้านเนื้อหาสาระ

            ของร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็น
            ชอบ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ และต่อมาได้ร้องเรียนขอให้
            เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความ
            บทบัญญัติมาตรา ๑๓๑/๑ แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐

                     ผู้ร้องที่  ๓  ขอให้ตรวจสอบบทบัญญัติของ
            ร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเมื่อ
            วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
            ได้มีมติเห็นชอบรับหลักการร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ....

            มีหลักการส�าคัญ คือ ยกเลิกพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่า
            ภาคหลวงแร่ พ.ศ. ๒๕๐๙ และพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยน�ากฎหมายทั้งสองฉบับรวมไว้เป็นฉบับเดียวกัน
            เพื่อให้การอนุญาตและการจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่เป็นไปอย่างมีระบบ โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวกระทบต่อ
            สิทธิมนุษยชน เนื่องจากหลักการและเหตุผลไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และขอให้น�าสาระเกี่ยวกับแร่ทองค�าออกจาก

            ร่างพระราชบัญญัติแร่ รวมทั้งเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติแร่ฉบับนี้มีบทบัญญัติและสาระส�าคัญที่กระทบต่อสิทธิชุมชนและ
            สิทธิในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญ
            แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐


                     การด�าเนินการ

                     คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาค�าร้องกรณีขอให้ตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... ซึ่ง
            คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ และกรณีขอให้ตรวจสอบและคัดค้านร่างพระราชบัญญัติแร่
            พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ แล้ว เห็นว่า ยังไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณา

            ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๒ ฉบับข้างต้น ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา
            ส�าหรับกรณีตามค�าร้องขอให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความบทบัญญัติมาตรา ๑๓๑/๑ แห่ง
            พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ นั้น เห็นว่า การเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นกรณีที่มีปัญหาว่า
            บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่การที่ขอให้ตีความ

            บทบัญญัติของพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ ไม่ใช่กรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะส่งเรื่องพร้อมด้วย
            ความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ อีกทั้งปัจจุบันคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไม่มีอ�านาจหน้าที่ดังกล่าวอีกต่อไปแล้ว
            ส่วนกรณีขอให้ถอนร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... ออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยอ้างว่ามีเนื้อหา



                                                                               คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  | 59
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65