Page 136 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 136
บทที่ ๒ ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐
กลยุทธ์ที่ ๑๒ : การผลักดันกลไกการไกล่เกลี่ยนอกศาลในกระบวนการแก้ไขข้อพิพาทเพื่อให้ผู้เสียหายได้เข้าถึง
ความเป็นธรรมอย่างรวดเร็ว ไม่แพง และเป็นที่พอใจ แต่มิได้ตัดสิทธิในการที่จะไปฟ้องร้องในกระบวนการยุติธรรม
กลยุทธ์ที่ ๑๓ : การร่วมมือกับองค์กร หรือสถาบันตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในสังคมเพื่อสนับสนุนกลไก
เกี่ยวกับปัญหาการประกอบธุรกิจและสิทธิมนุษยชน รวมถึงการให้แรงจูงใจที่เหมาะสม
กลยุทธ์ที่ ๑๔ : การสร้างความตระหนักรู้แก่กลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกละเมิด และสาธารณชนทั่วไป
กลยุทธ์ที่ ๑๕ : การถอดบทเรียนและจัดท�ากรณีศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อเท็จจริง
กลยุทธ์ที่ ๑๖ : การสนับสนุนกลไกการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เช่น การให้ค�าปรึกษากับผู้ร้องทุกข์เพื่อให้ บทที่ ๒
เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม กลไกการเยียวยา รวมทั้งการปรับปรุงกลไกการปกป้องผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน)
กลยุทธ์ที่ ๑๗ : การขยายช่องทางการติดต่อเพื่อให้เกิดการเข้าถึง กสม. ได้สะดวกมากขึ้น
กลยุทธ์ที่ ๑๘ : การพัฒนาความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาด้วย
ความเป็นกลาง มุ่งเสนอจุดยืนบนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
(๑) กสม. ควรปลูกฝังให้ความรู้กับผู้น�าชุมชน ภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน และ
การร่วมเสริมสร้างศักยภาพกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิให้กับภาคีเครือข่าย
(๒) กสม. ควรพัฒนาเครื่องมือในการสื่อสารความรู้และร่วมมือกับสื่อในการให้ความรู้ทางด้าน
ธุรกิจและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสนับสนุนบทบาทของสื่อในการตรวจสอบเชิงลึก
(๓) กสม. ควรสนับสนุนในด้านฐานข้อมูลเพื่อน�าไปสู่การท�าวิจัยและพัฒนาร่วมกับภาควิชาการ
อาทิ การแปลคู่มือมาตรฐานต่าง ๆ การวิเคราะห์วิจัยเชิงลึก
(๔) กสม. ควรร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ มาตรฐานสากล บทเรียน แนวทางการปฏิบัติที่ดี
รวมไปถึงการท�าวิจัยและพัฒนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างประเทศ
กลยุทธ์ที่ ๑๙ : การผลักดันแผนกลยุทธ์ขององค์กรให้น�าไปใช้เพื่อสนับสนุนการด�าเนินการด้านสิทธิมนุษยชน
และการประกอบธุรกิจ โดย กสม. ควรที่จะปรับสมดุลภาพลักษณ์ขององค์กรให้ท�างานในเชิงส่งเสริมมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ที่ ๒๐ : การท�าความเข้าใจภายในองค์กรให้เข้าใจตรงกันเกี่ยวกับนิยาม และขอบเขตอ�านาจของ กสม.
เพื่อก�าหนดแนวทางการปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครอง และการเยียวยาการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้มีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ที่ ๒๑ : การเพิ่มกลุ่มงานด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนโดยมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญและ
ประสบการณ์ในด้านสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจซึ่งมาจากหลากหลายสาขา เนื่องจากประเด็นสิทธิมนุษยชน
เกี่ยวข้องกับมิติที่หลากหลาย
กลยุทธ์ที่ ๒๒ : การจัดท�าคู่มือด้านสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจให้กับเจ้าหน้าที่
กลยุทธ์ที่ ๒๓ : พัฒนาโครงสร้างการบริหารจัดการบุคลากรขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
กลยุทธ์ที่ ๒๔ : กสม. ควรจะส่งเสริมให้มีคลังข้อมูลที่รวบรวมหลักปฏิบัติที่เป็นเลิศ โดยมีทั้งข้อมูลเชิงนโยบาย
กฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน กรณีศึกษาของบริษัทต่าง ๆ การด�าเนินการตามนโยบาย การสื่อสาร
กับสาธารณะ การบริหารความสัมพันธ์ภายในห่วงโซ่อุปทานการผลิต การจ�าแนกและประเมินความเสี่ยงด้านธุรกิจและ
สิทธิมนุษยชน การจัดท�าระบบการตรวจสอบ (auditing system) และการออกรายงานประจ�าปี นอกจากนี้ กสม. ควร
ที่จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนจัดท�าดัชนีการชี้วัดความส�าเร็จของงาน (KPI) ของตนเองขึ้น
กลยุทธ์ที่ ๒๕ : การพัฒนากลไกการบริหารที่ต้องมีการติดตาม การประสานงานกับผู้ร้องเรียนถึงสถานะการ
ด�าเนินการการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนอย่างเหมาะสม และการประเมินผลการปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์ฯ ทั้งจากภายใน
และภายนอกเพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนแผนที่เป็นรูปธรรมต่อไป เช่น การจัดท�ารายงานประจ�าปีที่มีการสรุป
การด�าเนินงานในประเด็นของธุรกิจและสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน เป็นต้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | 135