Page 134 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 134
บทที่ ๒ ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐
(๔) การติดตามและการรายงานผลการด�าเนินงาน (Tracking and reporting performance) การรายงานท�าให้
ผู้มีส่วนได้เสีย โดยเฉพาะนักลงทุนเข้าใจว่าท�าไมบริษัทจึงให้ความส�าคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชน และมีประโยชน์ต่อ
ผู้ใดบ้าง รวมทั้งเผยแพร่รายงานการประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสของธุรกิจได้
(๕) การแก้ไขให้ถูกต้องและเยียวยา (Remediation and remedy) เมื่อบริษัทระบุได้ว่าบริษัทก่อให้เกิดหรือ
มีส่วนก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชน บริษัทก็ควรแก้ไขให้ถูกต้อง หรือมีส่วนร่วมกับการแก้ไขผ่าน
กระบวนการที่ชอบธรรม โดยจัดตั้งหรือมีส่วนในการจัดตั้งกลไกรับเรื่องร้องเรียนส�าหรับผู้มีส่วนได้เสียที่อาจได้รับผลกระทบ
เชิงลบจากกิจกรรมของตน เพื่อให้เรื่องร้องเรียนเหล่านั้นได้รับการจัดการอย่างทันท่วงที และมีการเยียวยาโดยตรง บทที่ ๒
การน�าไปใช้ประโยชน์
• ใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเคารพสิทธิมนุษยชน โดยการท�าการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
• ใช้เป็นข้อมูลให้ภาคธุรกิจการโรงแรมใช้เป็นคู่มือในการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
• ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน
• ใช้ประโยชน์ในทางวิชาการผ่านการเผยแพร่ในห้องสมุดและผ่านเว็บไซต์ส�านักงาน
๒. โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒
ผู้ศึกษาวิจัย : สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ดร. นณริฏ พิศลยบุตร)
สาระส�าคัญของการศึกษาวิจัย
โครงการศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ปัจจัยเอื้อและข้อท้าทาย
ในการด�าเนินงานของ กสม. ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงระหว่างปี
พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ และเพื่อจัดท�าแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ ที่มีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๕
พร้อมแนวทาง และ/หรือข้อเสนอแนะในการแปลงแผนกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ
ผลการศึกษาวิจัย ในส่วนของบทบาทที่ผ่านมาของ กสม. ต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนกับภาคส่วนต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนทั่วไป ภาคภาคีแนวร่วมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาองค์กร กสม.
พบว่า ที่ผ่านมา กสม. ท�างานทั้งในด้านการปลูกฝัง คุ้มครองและเยียวยา และการพัฒนาองค์กรได้ดีในระดับหนึ่ง อย่างไร
ก็ตาม กสม. ยังคงมีช่องว่างที่จะยกระดับคุณภาพการท�างานของ กสม. เพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการ
ประกอบธุรกิจ พร้อมทั้งขับเคลื่อนประสิทธิภาพภายในองค์กรอยู่ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก กสม. ยังขาดปัจจัยอยู่หลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ภาคส่วนต่าง ๆ มอง กสม. ในแง่ลบท�าให้บางครั้งไม่ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่ อีกทั้งบุคลากร
ภายในของ กสม. ยังมีความเข้าใจในหลักการสากลที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและสิทธิมนุษยชนอย่างจ�ากัด รวมทั้ง
ยังพบปัญหาการตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างการละเมิดสิทธิมนุษยชนของภาคธุรกิจน�ามาซึ่งการละเมิดสิทธิฯ
ในประเด็นอื่น ๆ ท�าให้การท�างานขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างล่าช้า และท�าให้ความเสียหายอันเกิดแก่
ผู้ได้รับผลกระทบยังคงมีอยู่
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | 133

