Page 132 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 132

บทที่ ๒ ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐




            ที่เกิดขึ้นจริงและอาจเกิดขึ้นได้และมีการติดตามผลกระทบนั้นอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการสื่อสารต่อสาธารณะเพื่อให้แน่ใจ
            ได้ว่าผู้ได้รับผลกระทบจะได้รับการดูแลและเยียวยาอย่างใส่ใจ
                   เนื้อหาในหลักการได้ระบุแนวทางปฏิบัติส�าหรับธุรกิจ ดังนี้
                   หลักการข้อที่ ๑๗ องค์กรธุรกิจควรด�าเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน ในการป้องกัน ลดความ

            สูญเสีย มีการประเมินผลกระทบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจริงและอาจเกิดขึ้นได้ และมีการติดตาม ผลกระทบ
            นั้นอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการสื่อสารต่อสาธารณะเพื่อให้แน่ใจได้ว่า ผู้ได้รับผลกระทบจะได้รับการดูแลและเยียวยาอย่างใส่ใจ
                     (ก) ควรครอบคลุมผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่องค์กรธุรกิจอาจก่อหรือมีส่วนท�าให้เกิดขึ้น โดยผ่านกิจกรรม  บทที่ ๒
            ขององค์กรธุรกิจหรืออาจเชื่อมโยงกับการผลิตหรือบริการขององค์กรธุรกิจ โดยอาศัยความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

                     (ข) ย่อมมีความต่างกันในเชิงความซับซ้อนตามขนาดขององค์กร ธุรกิจ ความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
            ที่รุนแรง และสภาพตามธรรมชาติกับบริบทการด�าเนินการขององค์กรธุรกิจ
                     (ค) ควรด�าเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับว่าการเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอาจเปลี่ยนไปตาม
            สถานการณ์และบริบทในการด�าเนินการขององค์กรธุรกิจ



                   หลักการข้อที่ ๑๘ เพื่อที่จะวัดการเสี่ยงภัยในด้านสิทธิมนุษยชน องค์กรธุรกิจควรระบุและประเมินผลกระทบทาง
            ลบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจริง หรือที่น่าจะเกิดขึ้นได้ที่องค์กรธุรกิจอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าโดยกิจการขององค์กร
            ธุรกิจเอง หรือเป็นผลตามมาของความสัมพันธ์ทางธุรกิจขององค์กรธุรกิจ โดยมีกระบวนการ ดังนี้

                     (ก) ประเมินความเสี่ยงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนภายในหรือภายนอกที่เป็นอิสระ
                     (ข) จัดให้มีการปรึกษาหารืออย่างจริงจังกับกลุ่มที่อาจจะได้รับผลกระทบและผู้มีส่วนได้เสียตามความเหมาะสม
            กับขนาดขององค์กรธุรกิจ สภาพและบริบทของการด�าเนินการ



                   หลักการข้อที่ ๑๙ เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบที่มีผลในทางลบต่อสิทธิมนุษยชน องค์กรธุรกิจควรบูรณาการ
            สิ่งที่ค้นพบจากการประเมินผลกระทบเข้ากับหน้าที่และกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องและด�าเนินการตามความเหมาะสม
                     (ก) การบูรณาการอย่างมีประสิทธิผลต้องมีสิ่งต่อไปนี้
                        (๑) องค์กรธุรกิจต้องมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบที่เหมาะสม ท�าหน้าที่ติดตามผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน

                        (๒) กระบวนการตัดสินใจภายใน การจัดสรรงบประมาณ และกระบวนการก�ากับดูแล จะท�าให้มีการสนอง
            ตอบที่มีประสิทธิผลต่อผลกระทบดังกล่าว
                     (ข) การกระท�าที่เหมาะสมจะต่างกันออกไปด้วยเหตุผล ดังต่อไปนี้
                        (๑) องค์กรธุรกิจก่อหรือมีส่วนร่วมในการท�าให้เกิดผลกระทบในทางลบ หรือองค์กรธุรกิจเพียงแต่เข้าไป

            เกี่ยวข้องเพราะถูกโยงโดยตรงกับการด�าเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ หรือบริการของธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ด้วย
                        (๒) อ�านาจต่อรองขององค์กรธุรกิจในการแก้ปัญหาและดูแลผลกระทบในทางลบ


                   หลักการข้อที่ ๒๐ ในการหาความจริงว่าผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนก�าลังได้รับการดูแลหรือไม่ องค์กรธุรกิจควร

            ติดตามตรวจสอบประสิทธิผลของการแก้ปัญหา การติดตามตรวจสอบควรมีลักษณะ ดังนี้
                     (ก) มีตัวชี้วัดด้านคุณภาพและด้านปริมาณที่เหมาะสม
                     (ข) การหาข้อมูลสนับสนุนจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ



                   หลักการข้อที่ ๒๑ ในการแสดงความรับผิดของบริษัทผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น องค์กรธุรกิจควร
            จะมีความพร้อมที่จะสื่อสารเรื่องนี้กับภายนอก โดยเฉพาะเมื่อความกังวลนั้นถูกน�าเสนอ หรือกระท�าในนามของผู้มีส่วน
            ได้เสียที่ได้รับผลกระทบ องค์กรธุรกิจที่กิจการของตนหรือบริบทการด�าเนินธุรกิจท�าให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิด



                                                                               คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  | 131
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137