Page 193 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 193

อย่างไรก็ดี คณะรัฐมนตรีมีเพียงมติรับทราบเท่านั้น มิได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานน�าข้อเสนอดังกล่าวไปปฏิบัติแต่
           อย่างใด


           การส่งเสริมให้มีการน�าหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UNGPs) มาใช้

                รัฐบาลมีการส่งเสริมให้น�าหลักการชี้แนะฯ มาใช้
           โดยเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรีได้
           แสดงเจตจ�านงทางการเมืองส�าคัญ ในงานสัมมนาวิชาการ
           ระดับชาติ เรื่อง “การเผยแพร่และการขับเคลื่อนหลักการ

           ชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติใน
           ประเทศไทย” ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
           แห่งชาติ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ โดยกล่าวสนับสนุน
           ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนของสังคมปฏิบัติ

           ตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของ
           สหประชาชาติ (UNGPs) นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวยังมี
           การลงนามใน “ปฏิญญาความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติใน
           ประเทศไทย” โดยประธาน กสม. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรี

           ช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กรรมการ
           สมาคมธนาคารไทย และประธานเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย  โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นสักขีพยาน
           ถือเป็นการแสดงเจตจ�านงทางการเมืองที่ส�าคัญของผู้น�าประเทศต่อเรื่องดังกล่าวในการขับเคลื่อนประเด็นธุรกิจกับ
           สิทธิมนุษยชนภายใต้หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UNGPs) และต่อมา นายกรัฐมนตรี

           ได้มีบัญชาให้คณะกรรมการนโยบายและก�ากับดูแลรัฐวิสาหกิจทราบ เพื่อขับเคลื่อนให้เข้าใจหลักการ/วิธีปฏิบัติให้สอดคล้อง
           รวมถึงสร้างการรับรู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
                นอกจากการส่งเสริมให้มีการน�าหลักการชี้แนะฯ ไปใช้แล้ว หน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานยังได้มีการส่งเสริมให้
           ภาคธุรกิจน�ามาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนมาใช้ อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ผลักดันให้

           สถานประกอบการจัดท�าแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices : GLP) ที่มีความครอบคลุมเรื่องการ
           ไม่ใช้แรงงานเด็ก ไม่มีการค้ามนุษย์ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่มีการใช้แรงงานบังคับ มีระบบการจัดการสุขอนามัย การจัดการ
           ของเสีย และมีสภาพแวดล้อมการท�างานที่ปลอดภัย การเปิดโอกาสให้ลูกจ้างแสดงความเห็น โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่
           ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐) มีสถานประกอบกิจการผ่านการอบรมแล้วทั้งสิ้น ๕,๖๐๓ แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๙ จ�านวน ๔,๙๐๒ แห่ง

           และมีสถานประกอบกิจการน�าแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีไปใช้ในการบริหารจัดการแรงงาน จ�านวน ๕,๕๔๘ แห่ง
                                                                                                          ๓๗๒
           หรือการที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดท�ามาตรฐานและตรา “Thailand TRUST Mark” โดยสินค้าที่จะได้รับการรับรอง
           จะต้องผ่านเกณฑ์คุณภาพอย่างน้อย ๓ เกณฑ์ ได้แก่ เกณฑ์มาตรฐานการผลิต เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว และ
           เกณฑ์มาตรฐานแรงงานไทย ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขเพื่อรับรองและขับเคลื่อนการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                                                                                           ๓๗๓


           การจัดท�าแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (NAP)
                โดยที่รัฐบาลไทยได้แถลงรับข้อเสนอแนะจากการประชุมทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
           ในกระบวนการ UPR รอบที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ จากประเทศต่าง ๆ จ�านวน ๒๔๙ ข้อ และได้พิจารณา


           ๓๗๒  ประกอบด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมสัตว์ปีก ๓,๗๗๘ แห่ง กลุ่มอุตสาหกรรมสุกร ๘๘๗ แห่ง กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป ๔๔๔ แห่ง กลุ่มอุตสาหกรรมประมงทะเลและกิจการที่เกี่ยวข้อง ๔๓๙ แห่ง.
           ๓๗๓  สัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง “การเผยแพร่และการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในประเทศไทย” เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ ศูนย์
              ประชุมสหประชาชาติ โดยอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ.



           192 |  รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐
   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198