Page 139 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 139
อย่างไรก็ตาม รัฐได้ระบุปัญหา อุปสรรคที่ส�าคัญในการด�าเนินงานด้านการคุ้มครองผู้ถูกกระท�าด้วยความรุนแรงใน
ครอบครัวของประเทศไทย ดังนี้ (๑) เรื่องทัศนคติของคนในสังคมที่ปลูกฝังความเชื่อระบบชายเป็นใหญ่ (๒) บุคลากรโดย
เฉพาะเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระท�าความรุนแรงในครอบครัวยังขาดทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญในการ
ท�างาน มีจ�านวนไม่เพียงพอ ขาดความมั่นคงในอาชีพ (๓) สถานที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน เช่น ไม่มีสถานที่ส�าหรับรองรับ
ผู้ถูกกระท�าด้วยความรุนแรง รวมถึงผู้ถูกกระท�าด้วยความรุนแรงในครอบครัวที่ถูกค�าสั่งมาตรการคุ้มครองทางกฎหมาย
(๔) ระบบการประสานงานส่งต่อยังไม่มีประสิทธิภาพ ขาดความเชื่อมโยง (๕) งบประมาณที่จัดสรรไม่เพียงพอส�าหรับงาน
ความรุนแรงในครอบครัวซึ่งมีขอบเขตกว้างขวางและเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อน ๒๒๗
นอกจากนี้ ในปี ๒๕๖๐ รัฐได้ด�าเนินการจัดท�าแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ ซึ่ง
ได้ระบุวัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการดังกล่าวว่า เพื่อพัฒนานโยบาย มาตรการและกลไกด้านการส่งเสริมความเสมอภาค
ระหว่างสตรีและบุรุษในหน่วยงานภาครัฐ และจัดท�าแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ ๒๒๘
การประเมินสถานการณ์ ปัญหาและอุปสรรค
รัฐภาคีแห่งอนุสัญญา CEDAW มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติหรือยอมรับที่จะปฏิบัติตามหรือมีมาตรการใด ๆ ทั้งทาง
ด้านนิติบัญญัติ ด้านบริหาร และด้านตุลาการ ที่จะขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (discrimination against women)
๒๒๙
ในทุกรูปแบบ เพื่อให้บรรลุถึงความเสมอภาคที่แท้จริงระหว่างสตรีและบุรุษ โดยตกลงที่จะบรรจุหลักการของความเสมอภาค
ระหว่างสตรีและบุรุษไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งชาติตนหรือในบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เหมาะสมอื่น ๆ ซึ่งประเทศไทย
๒๓๐
ในฐานะรัฐภาคีแห่งอนุสัญญา CEDAW ได้บรรจุหลักการดังกล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๖๐ โดยบัญญัติว่า บุรุษและสตรีมีสิทธิเท่าเทียมกัน
นอกจากรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศยังมีกฎหมายส�าคัญซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างหลักประกัน
แห่งความเท่าเทียมระหว่างสตรีและบุรุษ รวมถึงสร้างมาตรการคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และ
ป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ คือ พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘
๒๓๑
อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติดังกล่าวได้มีประเด็นที่น่าห่วงใยอย่างยิ่ง (CEDAW/C/THA/CO/6-7, para. 8) เนื่องจาก
ยินยอมให้มีการยกเว้นให้ไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศในมาตรา ๑๗ วรรคสอง ในกรณีการด�าเนิน
การเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรือเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพ
และความปลอดภัย หรือการปฏิบัติตามหลักศาสนา หรือเพื่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งการมีข้อยกเว้นดังกล่าวขัดกับ
หลักการที่ว่า การเลือกปฏิบัติเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และมนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพโดยปราศจากความแตกต่าง
ไม่ว่าชนิดใด ๆ รวมทั้งความแตกต่างเพราะเหตุแห่งเพศ ๒๓๒
ปี ๒๕๖๐ รัฐได้น�ามาตรการเชิงบริหารมาใช้กับองค์กรท้องถิ่นเพื่อป้องกันการคุกคามทางเพศในที่ท�างานซึ่งเป็นการ
เลือกปฏิบัติทางเพศรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงแนวปฏิบัติหรือแนวทางอย่างกว้าง ๆ ไม่ว่า
จะเป็น มาตรการในการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยาน รวมถึงมาตรการคุ้มครองผู้ถูกกล่าวหาด้วย ดังนั้น ในทาง
ปฏิบัติจึงยากที่มาตรการดังกล่าวจะสามารถคุ้มครองผู้ที่ถูกละเมิดหรือถูกคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ กสม. มีข้อเสนอ
แนะเชิงนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับกรณีการคุกคามทางเพศในที่ท�างานไว้ว่า กรณีมีการตั้ง
๒๒๗ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. เรื่องเดิม. หน้า ๗.
๒๒๘ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. สรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดท�าแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๗
มีนาคม ๒๕๖๐ ณ อิงธาร รีสอร์ท จังหวัดนครนายก.
๒๒๙ หมายถึง การแบ่งแยก การกีดกัน หรือการจ�ากัดใด ๆ เพราะเหตุแห่งเพศ ซึ่งมีผลหรือความประสงค์ที่จะท�าลายหรือท�าให้เสื่อมเสียการยอมรับการได้อุปโภคหรือใช้สิทธิโดยสตรี โดยไม่
ค�านึงถึงสถานภาพด้านสมรส บนพื้นฐานของความเสมอภาคของบุรุษและสตรีของสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมพลเมือง หรือด้านอื่น ๆ.
(CEDAW ข้อ ๑).
๒๓๐ CEDAW ข้อ ๒ (ก).
๒๓๑ หมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘.
๒๓๒ CEDAW Preamble.
138 | รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐