Page 116 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 116

บทที่ ๔ การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม
                                                                    และวัฒนธรรม



                  ๒. รัฐควรพิจารณาเรื่องการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๘๗ และ ๙๘ เป็นวาระเร่งด่วนเพื่อเป็นการแสดง
            เจตนารมณ์ที่ชัดเจนที่จะมุ่งมั่นคุ้มครองสิทธิแรงงานอย่างแท้จริง โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติควรเร่งการพิจารณาร่าง
            พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
            นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังควรมีแผนการด�าเนินงานภายหลังจากการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาโดยก�าหนดกรอบเวลา

            อย่างชัดเจน เพื่อให้สิทธิของแรงงานตามที่ได้รับรองในอนุสัญญาเกิดผลในทางปฏิบัติจริง
                  ๓. รัฐควรตรวจสอบค่าจ้างขั้นต�่าของกลุ่มเป้าหมายตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๖)
            พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีนายจ้างตามเงื่อนไขของมาตรา ๔ ของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ หากพบว่ากลุ่ม
            ลูกจ้างเหล่านั้นได้รับค่าจ้างขั้นต�่าซึ่งต�่ากว่าที่คณะกรรมการค่าจ้างก�าหนด รัฐควรพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

            ต่อไป นอกจากนี้ ยังควรก�าหนดให้มีกลไกที่สนับสนุนให้มีการตรวจสอบข้อบังคับที่เกี่ยวกับการท�างาน เพื่อป้องกันปัญหา
            การละเมิดสิทธิแรงงานที่อาจเกิดขึ้น โดยค�านึงว่าจะไม่สร้างภาระให้ผู้ประกอบการเพิ่ม


            ๔.๓ สิทธิด้านสุขภาพ



            ภาพรวม


                  ประเทศไทยเป็นภาคีกติกา ICESCR ซึ่งก�าหนดให้รัฐมีหน้าที่รับรองสิทธิของทุกคนที่จะมีสุขภาพกายและสุขภาพจิต

            ตามมาตรฐานสูงสุดที่เป็นไปได้ และมีขั้นตอนในการด�าเนินการเพื่อบรรลุผลในการท�าให้สิทธิเป็นจริงอย่างสมบรูณ์
                                                                                                            ๑๓๑
            สิทธิด้านสุขภาพมีองค์ประกอบที่ส�าคัญได้แก่ ความมีอยู่ (availability) การเข้าถึงได้ (accessibility) การยอมรับได้
            (acceptability) และคุณภาพ (quality) โดยรัฐมีหน้าที่ในการจัดการบริการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเพียงพอและ
            เหมาะสมตามระดับการพัฒนาประเทศและมีคุณภาพการบริการที่ดี  ซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
                                                                   ๑๓๒
            พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ก�าหนดให้รัฐด�าเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง และการให้
            บริการสาธารณสุขจะต้องมีการพัฒนาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้รัฐด�าเนินการปฏิรูปด้าน  บทที่
            สาธารณสุขโดยปรับหลักประกันสุขภาพเพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิและประโยชน์จากการบริหารจัดการ และการเข้าถึง  ๔
            บริการที่มีคุณภาพและสะดวกทัดเทียมกัน ตลอดจนมีระบบการแพทย์ปฐมภูมิที่ดูแลประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสม ๑๓๓

                  ในปี ๒๕๖๐ ประเทศไทยมีนโยบาย กฎหมาย มาตรการและกลไกต่าง ๆ ที่มุ่งให้เกิดความก้าวหน้าทางสิทธิด้าน
            สุขภาพในการเข้าถึงสิทธิในการรับบริการสาธารณสุขของรัฐ และการลดความเหลื่อมล�้าในการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพ
            โดยสามารถสรุปสาระส�าคัญตามที่ปรากฏในตาราง ๒














            ๑๓๑  ข้อ ๑๒ แห่งกติกา ICESCR.
            ๑๓๒  The Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights. (2017). CESR General Comment No. 14 : The Rights to Higher Attainable Standard of
                Health (Article 12) adopted at the 22nd Session of the Committee on Economic Social and Culture Rights, 11 August 2000  UN Doc. E/C.12/2000/4  para 4 ,
                8, 9, 12 and 13. Retrieved from http://tbinternet.ohchr.org/SitePages/Home.aspx
            ๑๓๓  หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ มาตรา ๕๕ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ บัญญัติว่า รัฐต้องด�าเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง
                เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด (วรรคหนึ่ง)
                บริการสาธารณสุขตามวรรคหนึ่ง ต้องครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม และการป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพด้วย (วรรคสอง) รัฐต้องพัฒนาการบริการ
                สาธารณสุขให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (วรรคท้าย) และ หมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ มาตรา ๒๕๘ (ช)(๔) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
                บัญญัติว่า ให้ด�าเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้านต่าง ๆ ให้เกิดผล ปรับระบบหลักประกันสุขภาพให้ประชาชนได้รับสิทธิและประโยชน์จากการบริหารจัดการและการเข้าถึงบริการ
                ที่มีคุณภาพและสะดวกทัดเทียมกัน.


                                                                                คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  | 115
   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121