Page 109 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 109
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาสิทธิทางการศึกษาให้มีความพร้อม (availability) ในการเข้าถึง
(accessibility) มีความยืดหยุ่น (adaptability) และเป็นที่ยอมรับได้ (acceptability) แต่ยังพบปัญหาและอุปสรรค
เชิงโครงสร้างเกี่ยวกับการเข้าถึงได้ (accessibility) โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เปราะบางซึ่งยังไม่สามารถเข้าถึง
การศึกษาโดยเฉพาะการศึกษาภาคบังคับได้อย่างครบถ้วนและมีคุณภาพสอดคล้องกับวิถีชีวิต ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มเด็กยากจน
กลุ่มเด็กในชนบท กลุ่มเด็กไร้สัญชาติ และกลุ่มเด็กในฐานะผู้ลี้ภัย รวมถึงกลุ่มเด็กที่ติดตามแรงงานข้ามชาติ
ข้อเสนอแนะ
๑. รัฐบาลควรเร่งด�าเนินการปฏิรูปการศึกษาให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล�้า โดยใช้แนวทางการจัดการศึกษาให้มีความเหมาะสมกับภูมิสังคมและวัฒนธรรมใน
แต่ละพื้นที่ การจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมซึ่งเปิดโอกาสให้ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน องค์กรศาสนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตลอดจนบริษัทเอกชน ให้เข้ามาร่วมจัดการเพื่อให้สิทธิในการเข้าถึงการศึกษาสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง
โดยเป็นการเข้าถึงสิทธิที่มีความยืดหยุ่นและมีคุณภาพยอมรับได้
๒. รัฐบาลควรมีการประเมินผลส�าเร็จของนโยบาย กฎหมาย มาตรการและกลไกต่าง ๆ ที่ได้ด�าเนินการไปในการ
อ�านวยให้สิทธิทางการศึกษาบรรลุผลโดยล�าดับ อาทิ การสร้างโอกาสทางการศึกษาโดยรัฐด�าเนินการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๑๕ ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายจะลดความเหลื่อมล�้า สร้างความเป็นธรรม และลดความยากจน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดย
จัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการพัฒนาสมอง (Brain Based Learning - BBL) การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดย
การน�ารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ STEM Education การลดความเหลื่อมล�้าของการศึกษาด้วยเทคโนโลยีทางไกล
ผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television – DLTV) การเข้าถึงการเรียนภาษาอังกฤษโดยไม่มีค่าใช้จ่ายของโครงการ
ยกระดับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชัน Echo English เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐบาลควรเผยแพร่ความก้าวหน้า
ในการด�าเนินการให้สาธารณชนได้รับทราบเพื่อสร้างความตระหนักในการมีอยู่และการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษา
108 | รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐