Page 96 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 96
๗๙
ต่างๆ ดังกล่าวตามพันธกรณีที่ก าหนดไว้ในอนุสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศเม็กซิโก
ได้เข้าเป็นภาคี
นอกจากนี้ ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น การกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้
สูญหายที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนชาวเม็กซิโกอย่างแพร่หลาย ในวงกว้าง และกระท าอย่างเป็นระบบ
ตลอดระยะเวเลาเกือบหกปีของการด ารงต าแหน่งประธานาธิบดีของนายเฟลิเป้ คาลเดรอน
ยังมีลักษณะเป็นการกระท าอันเป็นการก่อ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” (Crime against humanity)
อีกด้วย ซึ่งเป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงที่เป็นการต้องห้ามโดยเด็ดขาดตามธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาล
อาญาระหว่างประเทศ (Rome Statute of International Criminal Court) ซึ่งประเทศเม็กซิโก
ได้ลงนามรับรองธรรมนูญกรุงโรมฯ แล้ว ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดความเคลื่อนไหวอย่างกว้างขวางจากองค์กร
ต่างๆ ด้านสิทธิมนุษยชนและประชาชนชาวเม็กซิโกจ านวนมาก ที่เรียกร้องให้รัฐบาลของนายเฟลิเป้
คาลเดรอน รับผิดชอบต่อการกระท าการอันเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติจากการด าเนินนโยบาย
ท าสงครามกับยาเสพติด หากแต่รัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวอ้างว่านโยบายเพื่อความ
ปลอดภัยของรัฐบาล มิอาจที่จะถูกพิจารณาเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศไปได้ ท้ายที่สุดนายเน็ตซาย
แซนโดวาล (Netzai Sandoval) ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและประชาชนชาวเม็กซิโกจ านวนมาก
๑๒๑
ได้เข้าชื่อกันกว่า ๑๘,๐๐๐ ชื่อ ส่งค าร้อง (petition) ไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก
๑๒๒
เพื่อให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาท าการสอบสวนเรื่องดังกล่าว
๑๒๑
โปรดดู http://www.petitiononline.com/CPI/petition.html (สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗)
๑๒๒
โปรดดู http://www.bbc.co.uk/news/world-latin-america-15899687 และ
http://www.reuters.com/article/2011/11/26/us-mexico-icc-idUSTRE7AO0TA20111126 และ
http://www.thairath.co.th/content/219958 (สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗)