Page 101 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 101

๘๔




                   ความเป็นธรรมในสังคม เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีความเสมอภาค
                   เท่าเทียมกันทั้งในความเป็นจริงและในทางกฎหมายไม่น้อยไปกว่าผู้มีอ านาจในสังคมหรือผู้มีฐานะ

                   ทางเศรษฐกิจดีกว่าและเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนเหล่านั้น
                                         โดยนัยดังกล่าว สิทธิมนุษยชนจึงเป็นคุณลักษณะประจ าตัวของมนุษย์
                   ทุกคนในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์และด้วยเหตุผลแต่เพียงอย่างเดียวว่าเขาเกิดมาเป็นมนุษย์ ทุกคนมีสิทธิ
                                                                                               ๑๒๙
                   และเสรีภาพเหล่านี้อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่จะมีสังคมการเมืองที่เรียกว่า “รัฐ” (State) เกิดขึ้น  และไม่มี
                   มนุษย์ผู้ใดสามารถสละสิทธิและเสรีภาพเหล่านี้ได้โดยชอบและไม่มี “ผู้ปกครองว่าการแผ่นดิน”
                                                                                        ๑๓๐
                   (Sovereign) คนใดหรือคณะใดมีอ านาจท าลายสิทธิและเสรีภาพเหล่านี้ได้เช่นกัน   สิทธิมนุษยชน
                   จึงมิได้เป็นการที่รัฐบัญญัติกฎหมายให้สิทธิแก่บุคคล หากแต่เป็นการที่กฎหมายของรัฐได้รับรองถึง
                   ความมีอยู่ของสิทธิที่ติดตัวมนุษย์ไว้ในบทบัญญัติของกฎหมายเท่านั้น  เช่น สิทธิในชีวิตร่างกายของบุคคล
                                                       ๑๓๑
                   เสรีภาพในทางความเชื่อของบุคคล เป็นต้น   แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนจึงมุ่งหมายให้สิทธิเสรีภาพ
                   ของความเป็นมนุษย์ควรค่าที่จะได้รับการเคารพจากบุคคลทุกคน และจะต้องได้รับการประกันหรือการ
                   คุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากการแบ่งแยกหรือการเลือกปฏิบัติใดๆ


                                         ๓.๑.๒ หลักกำรรับรองและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                                         สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนทั่วโลก
                   น ามาซึ่งหลักสากลในการรับรองและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขึ้นอันเป็นหลักการพื้นฐานที่สะท้อนผ่าน

                   ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. ๑๙๔๘
                                         ในส่วนนี้จะได้กล่าวถึงหลักการรับรองและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยแบ่ง
                   ออกเป็น (๑) การรับรองสิทธิมนุษยชน และ (๒) การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                                         (๑) กำรรับรองสิทธิมนุษยชน

                                         โดยที่สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ติดมาตามธรรมชาติ
                   พร้อมกับการเกิดมาของมนุษย์แต่ละคนทั่วโลก และเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามหลักสากลหรือในทาง
                   ระหว่างประเทศ การรับรองสิทธิมนุษยชนจึงปรากฏให้เห็นหรือประมวลไว้ในกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ใน
                   ระดับต่างๆ ทั้งในกฎหมายระดับประเทศ กฎหมายระดับภูมิภาค (ที่รัฐสมาชิกในภูมิภาคต่างๆ ร่วมกันตรา

                   ขึ้นและใช้บังคับร่วมกัน) และกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายหรือกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศในลักษณะ
                   ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปฏิญญาต่างๆ กติการะหว่างประเทศ สนธิสัญญา อนุสัญญาระหว่างประเทศ หรือหลัก
                   กฎหมายระหว่างประเทศอื่นๆ ได้ก าหนดหลักการรับรองสิทธิมนุษยชนในประการต่างๆ ของปัจเจกชน

                   หรือประชาชนแต่ละคนไว้โดยชัดแจ้ง
                                         ในส่วนนี้ จะได้กล่าวถึงสารัตถะหรือลักษณะแห่งสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการ
                   รับรองตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศอันเป็น “มาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน”



                          ๑๒๙
                              วรพจน์ วิศรุตพิชญ์, สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐, พิมพ์
                   ครั้งที่ ๒, (กรุงเทพมหานคร: ส านักพิมพ์วิญญูชน, ๒๕๔๓), น.๔๔.
                          ๑๓๐
                              เพิ่งอ้าง, น.๔๐.
                          ๑๓๑
                              บรรเจิด  สิงคะเนติ, หลักพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญ,
                    พิมพ์ครั้งที่ ๒ ปรับปรุงใหม่, (กรุงเทพมหานคร : ส านักพิมพ์วิญญูชน, ๒๕๔๗), น. ๗๓.
   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106