Page 99 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 99
๘๒
สามารถช่วยเหลือและด าเนินชีวิตได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นเหมือนแต่ก่อน หรือพึ่งพาอาศัย
ผู้อื่นแต่น้อยเท่าที่จ าเป็น
ต่อมา เมื่อมีพัฒนาการทางการเมืองการปกครองของมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น
ก็มีความขัดแย้งอันเนื่องมาจากความไม่เท่าเทียมของกลุ่มบุคคลสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความเข้มแข็งและมี
อ านาจในการก าหนดความเป็นไปภายในสังคม เช่น กลุ่มชนชั้นปกครอง กลุ่มนักการเมือง
กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจ และกลุ่มอิทธิพลกับคนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่มีอ านาจต่อรองในทางสังคมน้อย
กว่ากลุ่มแรกและต้องปฏิบัติตามการชี้น าของกลุ่มแรก เช่น กลุ่มชาวนาและเกษตรกร
กลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยคนกลุ่มแรกมักใช้ก าลังและอ านาจที่ตนมีกดขี่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบ
คนกลุ่มหลังอย่างไร้มนุษยธรรม ท าให้คนกลุ่มหลังซึ่งอยู่ในฐานะผู้ถูกปกครองพยายามหากฎเกณฑ์ต่างๆ
เพื่อมาจ ากัดอ านาจของผู้ปกครอง มนุษย์จึงตกลงเข้าท าสัญญาอยู่ร่วมกันเป็นสังคมและจัดตั้งรัฐบาลขึ้นเพื่อ
ท าหน้าที่ปกครอง รักษาความสงบเรียบร้อยและอ านวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมเรียกว่าสัญญา
ประชาคม (Social Contract) โดยประชาชนแต่ละคนยอมสละสิทธิบางส่วนของตน คือ สิทธิที่จะบังคับ
กันเองให้รัฐหรือรัฐบาลซึ่งได้จัดตั้งขึ้นตามสัญญา แต่ทุกคนยังสงวนสิทธิในชีวิต เสรีภาพ และทรัพย์สิน
อันเป็นสิทธิธรรมชาติของมนุษย์ไว้ ซึ่งรัฐหรือบุคคลใดจะท าลาย ล่วงละเมิดหรือขัดขวางสิทธิดังกล่าวไม่ได้
และเมื่อใดที่รัฐหรือรัฐบาลท าผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในสัญญาโดยการละเมิดสิทธิธรรมชาติของประชาชน
ถือว่ารัฐได้กระท าการอันเป็นการฝ่าฝืนความไว้วางใจของประชาชนตามสัญญาซึ่งเป็นเงื่อนไขส าคัญแห่ง
การมีอ านาจของรัฐ ประชาชนผู้ถูกปกครองย่อมมีอิสระในการถอดถอนหรือล้มล้างรัฐหรือผู้ปกครองที่ท า
ผิดสัญญาได้และอิสระในการถอดถอนหรือล้มล้างผู้ปกครองดังกล่าวคือ สิทธิธรรมชาติในการลงโทษ
ผู้ปกครองของผู้ถูกปกครอง ซึ่งต่อมาเรียกว่า “สิทธิมนุษยชน”
การเรียกร้องสิทธิมนุษยชนและการจัดท าเอกสารในยุคแรกๆ เน้นเรื่อง
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดทางการเมืองและระบบเศรษฐกิจแบบเสรี
ซึ่งระบบเศรษฐกิจแบบเสรีมีเงื่อนไขส าคัญคือ การปลอดการแทรกแซงของรัฐ แต่เมื่อเวลาผ่านไประบบ
เสรีกลับท าให้เกิดปัญหาสังคมตามมา ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นความจริงที่ว่าคนเรามีความสามารถและโอกาส
ไม่เท่ากัน ดังนั้น การปล่อยเสรีท าให้มนุษย์กลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ ในขณะที่มนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งถูกใช้เป็น
เครื่องมือในการหาประโยชน์จากกลุ่มแรก และกลุ่มหลังซึ่งมีจ านวนมากตกอยู่ในสภาวะยากจนที่สุดและ
อยู่อย่างไม่มีสภาพที่มีค่าความเป็นมนุษย์เหลืออยู่ และจากสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมดังกล่าว น ามาซึ่ง
การเรียกร้องสิทธิมนุษยชนในรูปแบบใหม่ขึ้นมา ในลักษณะเป็นสิทธิที่จะมีสภาพการด ารงชีวิตที่ดีและมี
สภาพการท างานที่ดี โดยการเรียกร้องให้รัฐเข้ามามีบทบาทในการกระท าเพื่อเสริมสร้างให้มนุษย์มีความ
เป็นอยู่ที่ดีสมความเป็นมนุษย์ ซึ่งตรงข้ามกับแนวคิดเดิมที่ห้ามรัฐเข้าแทรกแซง ก่อให้เกิดแนวคิดพื้นฐาน
เกี่ยวกับการให้อ านาจคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนใน
ความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกัน
แนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ ๑๙ เพื่อจะเยียวยาแก้ไข
ความอยุติธรรมและความไร้มนุษยธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมอันเป็นผลมาจาก “ลัทธิเสรีนิยม” (Liberalism)
ที่เปิดโอกาสให้มีการเอารัดเอาเปรียบกันเป็นอย่างมากของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะ
ผู้ที่มีความแข็งแรงกว่ามีอ านาจต่อรองในทางเศรษฐกิจที่เหนือกว่า มักจะใช้ความแข็งแรงและอ านาจ
ต่อรองที่เหนือกว่าของตนดังกล่าวกดขี่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่าหรือด้อยกว่า
เพื่อแสวงหาประโยชน์แก่ตนให้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น ในเรื่องเสรีภาพในการแสดงเจตนาและเสรีภาพ