Page 91 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 91
๗๔
๙๙
recognition as a person before the law) ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิ
มนุษยชน (UN Human Rights Committee) เห็นว่าการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการฝ่าฝืนหรือการ
คุกคามอย่างรุนแรงต่อสิทธิในชีวิต เสรีภาพ และความปลอดภัย (Right to life, to liberty and
security) เสรีภาพจากการถูกทรมานหรือการปฏิบัติอย่างป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม หรือไร้ศักดิ์ศรี
(Freedom from torture or cruel, inhuman or degrading treatment)
อย่างไรก็ตาม ในบริบทของการบังคับบุคคลให้สูญหายโดยเฉพาะ
๑๐๐
ซึ่งเป็นการก่อ “อาชญากรรมที่ต่อเนื่อง” (a “continuing crime”) อันน ามาซึ่งเหยื่อหรือผู้ได้รับ
ผลกระทบเป็นจ านวนมาก ซึ่งมิได้จ ากัดอยู่แต่เพียงบุคคลผู้ถูกบังคับให้สูญหายเท่านั้น หากแต่ยัง
ครอบคลุมไปถึงบุคคลในครอบครัวของผู้ถูกบังคับให้สูญหายด้วยนั้น มีอนุสัญญาสองฉบับที่ก าหนดหน้าที่
ของรัฐภาคีที่ต้องด าเนินการอันเกี่ยวข้องกับการบังคับให้บุคคลสูญหายเป็นการเฉพาะ ได้แก่ อนุสัญญา
Inter-American ว่าด้วยการบังคับบุคคลให้สูญหาย ปี ค.ศ. ๑๙๙๔ (the Inter-Amercian Convention
๑๐๑
on Forced Disappearance of Persons) และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคล
ทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ค.ศ. ๒๐๐๖ (International Convention on the Protection
of All Persons from Enforced Disappearance) ซึ่งมีผลใช้บังคับในปี ค.ศ. ๒๐๑๐ ซึ่งประเทศ
เม็กซิโกได้เข้าเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าวด้วย
ดังนั้น รัฐบาลแห่งประเทศเม็กซิโกจึงมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไป
ตามพันธกรณีตามที่ก าหนดไว้ในอนุสัญญาทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและ
การกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งนอกจากการปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศ
ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหายตามที่ก าหนดในอนุสัญญา
๑๐๒
ทั้งหลายดังกล่าวแล้ว รัฐบาลแห่งประเทศเม็กซิโกยังมีหน้าที่ส าคัญอีกสองประการ ได้แก่
(๑) การด าเนินการสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย และ (๒) การเยียวยา
ความเสียหายแก่เหยื่อหรือผู้ได้รับผลกระทบ
๙๙
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and
Political Rights - ICCPR) ได้รับการรับรองโดยสหประชาชาติเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๖๖ และมีผลใช้บังคับเมื่อ
วันที่ ๒๓ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๗๖ ประเทศเม็กซิโกเข้าเป็นภาคีแห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมือง โดยให้สัตยาบันเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๘๑
๑๐๐
Inter-American Covention on Forced Disappearance of Persons, Art. 3; International
Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Art. 8 (1) (b).
อาชญากรรมดังกล่าวยังคงด าเนินต่อไปตราบใดที่บุคคลผู้สูญหายยังคงหายตัวไปและไม่มีผู้ใดทราบข้อมูล
เกี่ยวกับชะตากรรมหรือสถานที่อยู่ของบุคคลนั้น
๑๐๑
Inter-American Covention on Forced Disappearance of Persons 1994 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่
๒๘ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๙๖ ประเทศเม็กซิโกได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ค.ศ. ๒๐๐๘
๑๐๒
รายละเอียด โปรดดู การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของประเทศ
เม็กซิโกให้เป็นไปตามข้อผูกพันตามอนุสัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าว ในหัวข้อ ๒.๒.๑ การแก้ไขปัญหาโดยมาตรการ
ภายในประเทศ (๑) การปฏิรูปเชิงสถาบัน (Institutional Reform) ที่เกี่ยวข้องกับการกระท าอันเป็น
การบังคับบุคคลให้สูญหาย (๑.๑) การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายอาญาเพื่อรองรับการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคล
ให้สูญหาย