Page 93 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 93
๗๖
และจะมีการหยิบยกสถานการณ์พิเศษใดๆ ขึ้นอ้างเพื่อเป็นเหตุผลของการบังคับบุคคลให้สูญหายมิได้
ไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงครามหรือภัยคุกคามจากสงคราม การไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ
หรือสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นใดมิได้ ด้วยเหตุนี้ อนุสัญญาฯ นี้ จึงก าหนดหน้าที่ของรัฐภาคีในการด าเนินการ
ต่างๆ ที่จ าเป็นเพื่อคุ้มครองบุคคลมิให้ถูกบังคับให้สูญหาย หน้าที่ส าคัญประการหนึ่งของรัฐภาคีได้แก่ การ
ด าเนินมาตรการต่างๆ ที่จ าเป็นในการน าตัวบุคคลดังต่อไปนี้มารับผิดทางอาญา ได้แก่ (๑) บุคคลใดที่
กระท า สั่ง ให้ความช่วยเหลือ หรือชักชวนให้กระท า หรือพยายามกระท า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดหรือ
มีส่วนร่วมในการบังคับบุคคลให้สูญหาย และ (๒) ผู้บังคับบัญชาซึ่งรู้ หรือไม่ใส่ใจข้อมูลซึ่งแสดงให้เห็น
โดยชัดเจนว่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ภายใต้อ านาจและการควบคุมของเขา ก าลังกระท าการหรือจะกระท า
การบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือรับผิดชอบการกระท าการหรือควบคุมการด าเนินการโดยรวมอันเกี่ยวกับ
การบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือเพิกเฉยไม่ด าเนินมาตรการที่จ าเป็นและเหมาะสมซึ่งอยู่ในอ านาจของตน
เพื่อป้องกันหรือลงโทษการบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือไม่ส่งเรื่องต่อองค์กรที่มีอ านาจหน้าที่เพื่อการ
๑๐๘
สอบสวนและการด าเนินคดี ทั้งนี้ ค าสั่งหรือค าแนะน าขององค์กรของรัฐใดๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กร
พลเรือน ทหาร หรืออื่นใด ไม่อาจจะถูกหยิบยกขึ้นกล่าวอ้างเพื่อเป็นเหตุผลของการกระท าความผิดอาญา
๑๐๙
ฐานบังคับบุคคลให้สูญหายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่า หากการกระท าใดไม่เข้าเงื่อนไขของการบังคับ
บุคคลให้สูญหายตามนัยแห่งอนุสัญญาฯ ดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระท าซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว รัฐภาคีไม่ต้องด าเนินการสืบสวนสอบสวนใดๆ แต่อย่างใด อนุสัญญาฯ
ดังกล่าวจึงก าหนดไว้โดยชัดแจ้งด้วยว่า รัฐภาคีมีหน้าที่การด าเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อสืบสวน
สอบสวนการกระท าต่างๆ ตามที่ก าหนดไว้ใน (ข้อ ๒ แห่ง) อนุสัญญาฯ ดังกล่าว ซึ่งกระท าโดยบุคคลหนึ่ง
หรือกลุ่มบุคคลหนึ่งโดยมิได้รับอนุญาต การสนับสนุนหรือการยอมรับของรัฐ และน าตัวบุคคลนั้นมา
๑๑๐
ด าเนินคดีด้วย
นอกจากนี้ อนุสัญญา Inter-American ว่าด้วยการบุคคลถูกบังคับ
ให้สูญหาย ๑๙๙๔ ซึ่งตระหนักว่าการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการกระท าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
ที่ไม่มีข้อยกเว้นและที่จ าเป็นซึ่งได้รับการคุ้มครองไว้ในอนุสัญญาแห่งอเมริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
(the American Convention on Human Rights) ปฏิญญาแห่งอเมริกาว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของ
มนุษย์ (the American Declaration of the Rights and Duties of Man) และปฏิญญาสากลว่าด้วย
๑๐๘
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance,
Article 6, paragraph 1.
๑๐๙
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance,
Article 6, paragraph 2.
๑๑๐
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance,
Article 3
“Each State Party shall take appropriate measures to investigate acts defined in article 2
committed by persons or group of persons acting without the authorization, support or acquiescence
of the State and to bring those responsible to justice.”