Page 85 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 85

๖๘




                   น าตัวผู้กระท าความผิดมาลงโทษ อันแสดงถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของพนักงานอัยการมลรัฐ
                   Neuva  Leon  แล้ว มาตรการจัดการและแก้ไขปัญหาภายในประเทศที่ส าคัญ ก็คือ การปฏิรูป

                   ในเชิงสถาบันเกี่ยวกับการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเกิดจากข้อเสนอของพนักงาน
                   อัยการมลรัฐ Neuva Leon (the Neuva Leon Attorney General’s Office) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
                   เพิ่มขีดความสามารถในการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การ
                   ปฏิรูปเชิงสถาบันที่ส าคัญๆ ประกอบด้วยการปฏิรูปในสองประการ ได้แก่ (๑.๑) การแก้ไขปรับปรุง
                   กฎหมายอาญาเพื่อรองรับการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายและ (๑.๒) การก าหนดให้มี

                   พนักงานสอบสวนเพื่อรับผิดชอบคดีประเภทนี้เป็นการเฉพาะ

                                          (๑.๑) กำรแก้ไขปรับปรุงกฎหมำยอำญำเพื่อรองรับกำรกระท ำอันเป็นกำร

                   บังคับบุคคลให้สูญหำย
                                         มาตรการทางกฎหมายประการส าคัญประการหนึ่งเพื่อจัดการและแก้ไขปัญหา
                   เกี่ยวกับการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหาย ได้แก่ การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายอาญาของมลรัฐ
                   ให้ครอบคลุมถึงการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายด้วย ซึ่งแต่เดิมการกระท าดังกล่าวไม่เป็น

                   อาชญากรรมในประมวลกฎหมายอาญาในหลายๆ มลรัฐของประเทศเม็กซิโก ทั้งนี้ การแก้ไขปรับปรุง
                   กฎหมายอาญาเพื่อรองรับการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายของประเทศเม็กซิโกเป็นผลมาจาก
                   พันธกรณีในอนุสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลมิให้ถูกบังคับให้สูญหายที่ประเทศเม็กซิโก
                   เข้าเป็นภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้

                   สูญหาย ค.ศ. ๒๐๐๖ (International  Convention  for  the  Protection  of  All  Persons  from
                   Enforced  Disappearance) ซึ่งก าหนดให้รัฐภาคีก าหนดมาตรการต่างๆ ที่จ าเป็นเพื่อก าหนดให้การ
                                                                           ๘๕
                   บังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาแห่งรัฐภาคี  และในท านองเดียวกัน อนุสัญญา
                   Inter-Americanว่าด้วยการบังคับบุคคลให้สูญหาย ค.ศ. ๑๙๙๔ (Inter-American Covention on Forced

                   Disappearance  of  Persons) ซึ่งก าหนดให้รัฐภาคีก าหนดมาตรการทางกฎหมายก าหนดให้การบังคับ
                   บุคคลให้สูญหายเป็นความผิดตามกฎหมายภายในรัฐภาคี และก าหนดบทลงโทษที่เหมาะสมและได้สัดส่วน
                   กับความรุนแรงอย่างยิ่งของการกระท าเช่นนั้น ทั้งนี้ ให้ถือว่าความผิดดังกล่าวยังคงด ารงอยู่อย่างต่อเนื่อง

                   และตลอดไปตราบเท่าที่ชะตากรรมหรือสถานที่อยู่ของเหยื่อ (ผู้ถูกบังคับให้สูญหาย) ยังไม่สามารถ
                         ๘๖
                   ระบุได้
                                         โ ด ยนัยดังกล่าว รัฐบาลแห่งเม็กซิโกจึงมีพันธกรณีที่จะต้องก าหนดให้
                   การกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดตามกฎหมายภายในประเทศ ซึ่งกฎหมายระดับ
                   สหพันธรัฐและระดับมลรัฐยังมีปัญหาความไม่ต้องตรงกันของนิยามของการบังคับบุคคล

                   ให้สูญหายอันเป็นการจ ากัดการป้องกัน การสอบสวน และการด าเนินคดีความผิดดังกล่าวอีกด้วย
                                         ตามประมวลกฎหมายอาญาสหพันธรัฐ (Mexico’s federal criminal code)
                   “ไม่ว่าจะมีส่วนร่วมในการควบคุมตัวบุคคลหนึ่งหรือหลายคนโดยชอบด้วยกฎหมายหรือโดยมิชอบด้วย



                          ๘๕
                             International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance,
                   Article 4.
                          ๘๖
                             Inter-American Covention on Forced Disappearance of Persons, Article III.
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90