Page 83 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 83
๖๖
การด ารงต าแหน่ง นายเฟลิเป้ คาลเดรอน ก็ยอมรับว่ามีการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
(human rights violations) เกิดขึ้น และแม้จะดูเหมือนว่าเขาพยามจะด าเนินมาตรการต่างๆ เพื่อจ ากัด
ขอบเขตของการใช้อ านาจที่มิชอบดังกล่าวก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการด าเนินการในวงจ ากัดเท่านั้น และที่
ส าคัญ เขาล้มเหลวที่จะปฏิบัติหน้าที่ประการพื้นฐานของตนอย่างครบถ้วน ในอันที่จะท าให้การกระท าการ
อันมิชอบโดยทหารและเจ้าหน้าที่ต ารวจได้รับการสอบสวน และน าตัวผู้กระท าความผิดเข้าสู่กระบวนการ
ยุติธรรม
การจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังจึงตกเป็นภาระหน้าที่
อันหนักหน่วงของนายเอ็นริก เปน่า เนโต้ (Enrique Pena Nieto) ประธานาธิบดีในสมัยต่อมา
ของประเทศเม็กซิโก นับแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ค.ศ. ๒๐๑๒ ภายหลังการพ้นจากต าแหน่งของนายเฟลิเป้
คาลเดรอน
หน้าที่ของรัฐบาลเม็กซิโกในการจัดการกับปัญหาการสูญเสียและผลกระทบ
ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ความรุนแรงตามนโยบายการท าสงครามปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลนาย
เฟลิเป้ คาลเดรอน และน ามาซึ่งปัญหาการบังคับประชาชนชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์ให้สูญหายเป็นจ านวน
มหาศาลดังกล่าวนั้น ประกอบด้วยการจัดการในด้านต่างๆ ทั้งมิติภายในประเทศ และมิติระหว่างประเทศ
ดังนั้น การจัดการและแก้ไขปัญหาการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนจึงประกอบด้วยการ
ด าเนินการในสองลักษณะ ได้แก่ ๒.๒.๑ การแก้ไขปัญหาโดยมาตรการภายในประเทศ และ ๒.๒.๒ การ
ปฏิบัติตามข้อผูกพันตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
๒.๒.๑ กำรแก้ไขปัญหำโดยมำตรกำรภำยในประเทศ
หากปรากฏว่า ภาครัฐพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น โดยการจัดตั้ง
“หน่วยงานอัยการพิเศษเพื่อดูแลเหยื่ออาชญากรรม” (the Special Prosecutor’s Office for
Attention to Victims of Crimes - PROVICTIMA) ขึ้นในปี ค.ศ. ๒๐๑๑ เพื่อท าหน้าที่ให้
ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ แก่ครอบครัวของผู้สูญหายเป็นการเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของ
ผู้สูญหายจ านวนมากไม่ทราบถึงการมีอยู่และภารกิจของหน่วยงานดังกล่าว จึงมิได้ประสาน
ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานนั้น ในขณะที่ครอบครัวของผู้สูญหายบางรายที่ได้เข้าขอ
ความช่วยเหลือจากหน่วยงานดังกล่าว ก็ให้ข้อมูล (ต่อองค์การเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน)
ว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามภารกิจของหน่วยงาน นอกจากนี้
ครอบครัวของผู้สูญหายหลายรายกล่าวด้วยว่าหน่วยงานดังกล่าวกดดันให้ญาติหรือครอบครัวของ
ผู้สูญหายยอมรับว่าผู้สูญหายนั้นเสียชีวิตแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานอันแน่ชัดที่จะสรุปเช่นนั้นได้
อันเป็นการเพิ่มความทุกข์ใจให้แก่ญาติและครอบครัวของผู้สูญหาย
ในด้านของภาคเอกชน ปัญหาการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจน
การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตนในการสอบสวนและติดตาม
ผู้สูญหายตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาจะท าให้ประชาชนชาวเม็กซิโกเกิดความไม่ไว้วางใจ (distrust)
ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ วงจรอุบาทว์ (vicious cycle) และกระบวนการของรัฐที่ล้มเหลว (dysfunction)
แต่อย่างไรก็ตาม ความคิดริเริ่มและความพยายามของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อผู้สูญหายที่เป็นคนรากหญ้า
(a grassroots victims’ movement) ในมลรัฐ Neuva Leon ซึ่งเป็นหนึ่งในมลรัฐที่มีประชาชน
สูญหายไปมากที่สุดของประเทศเม็กซิโก ร่วมกับกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนในพื้นที่ (Ciudadanos en