Page 84 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 84
๖๗
Apoyo a los Derechos Humanos - CADHAC (Citizens in Support of Human Rights)) และ
ครอบครัวของผู้สูญหายในการกดดันภาครัฐให้ต้องด าเนินการสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
ประกอบกับความจริงจังและความจริงใจมากขึ้นของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการ
สอบสวนและติดตามหาตัวผู้สูญหาย น ามาซึ่งการร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่งระหว่างครอบครัวของผู้สูญหาย
กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการด าเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
อันเป็นมิติใหม่ (a new approach) ของการด าเนินการร่วมกันโดยการประชุมท างานสามฝ่าย (“working
meetings”) ท าให้ประชาชนชาวเม็กซิโก โดยเฉพาะครอบครัวของผู้สูญหายทั้งหลาย ค่อยๆ ให้ความ
๘๓
ไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐยิ่งขึ้น และส่งผลให้การด าเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยดีและมี
๘๔
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ได้เรียนรู้เทคนิคและทักษะในการสอบสวนการ
กระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายไปด้วยในตัว ซึ่งเป็นการก่ออาชญากรรมที่มีเงื่อนไขการ
ด าเนินการเป็นการเฉพาะและแตกต่างไปจากการกระท าความผิดอาญาทั่วไป
แม้ว่าจะมีการด าเนินมาตรการต่างๆ เพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ ก็ตาม แต่มาตรการที่ส าคัญและ
เห็นเด่นชัดที่สุดเพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาการกระท าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายที่รัฐบาลแห่ง
ประเทศเม็กซิโกได้ด าเนินการภายในประเทศของตนเป็นการเฉพาะ ประกอบด้วยมาตรการส าคัญสอง
ลักษณะด้วยกัน ได้แก่ (๑) การปฏิรูปในเชิงสถาบัน (Institutional Reforms) ที่เกี่ยวข้องกับการกระท า
อันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหาย และ (๒) การด าเนินการให้มีการจัดท าฐานข้อมูล (Database) เกี่ยวกับ
บุคคลที่สูญหายและศพที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้
(๑) กำรปฏิรูปในเชิงสถำบัน (Institutional Reforms) ที่เกี่ยวข้องกับกำร
กระท ำอันเป็นกำรบังคับบุคคลให้สูญหำย
นอกจากการจัดท าคู่มือการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย
(a prosecutor’s manual) ซึ่งเป็นคดีที่มีลักษณะพิเศษขึ้นเป็นการเฉพาะ เพื่อก าหนดขั้นตอนด าเนินการ
พื้นฐานอย่างเป็นระบบที่จะต้องกระท าในการสอบสวนเพื่อติดตามค้นหาผู้สูญหายและ
๘๓
โปรดดู Human Rights Watch, Mexico’s disappeared, The Enduring Cost of a Crisis Ignored,
อ้างแล้ว, หน้า ๘ และ ๙๒.
การด าเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยการประชุมร่วมกันทั้งสามฝ่ายในมลรัฐ Neuva Leon อันได้แก่
ครอบครัวของผู้สูญหาย องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ (พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวนหรือ
เจ้าหน้าที่ต ารวจ) ดังกล่าว ได้กลายเป็น “ต้นแบบ” หรือ “พิมพ์เขียว” (blueprint) ให้แก่มลรัฐอื่นๆ ในการด าเนินการ
ร่วมกันเพื่อกดดันภาครัฐให้ท าการสอบสวนและติดตามหาตัวผู้สูญหาย
๘๔
มีผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการกระท าอันเป็นเหตุให้บุคคลสูญหายไปเป็นจ านวนมากกว่า ๕๐ ราย ใน ๗
กรณีของการสูญหายของชาวเม็กซิโกในมลรัฐ Neuva Leon และในกรณีอื่นๆ แม้จะยังไม่มีการกล่าวหา
แต่การสอบสวนข้อเท็จจริงก็มีความคืบหน้าไปมากและได้พยานหลักฐานต่างๆ ที่มีน้ าหนัก เช่น การเรียกให้
ผู้ต้องสงสัยมาให้ถ้อยค า การติดตามหาพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ การกดดันผู้ประกอบการโทรคมนาคมให้ส่งมอบบันทึก
การสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ (cell phone records) ของผู้สูญหาย ทั้งนี้ การด าเนินการต่างๆ ดังกล่าว
ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในระหว่างช่วงเวลาที่เกิดปัญหาการท าให้ชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์ต้องสูญหายไปอย่างแพร่หลาย
และเป็นจ านวนมาก