Page 232 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 232

๒๑๕




               และพลเมืองที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด การด าเนินนโยบายของรัฐบาลจึงก่อให้เกิด “ความผิดพลาด” และ
               “ผลกระทบ” อย่างรุนแรงต่อประชากรพลเรือนโดยทั่วไป

                              ๕.๑.๓ ผลของกำรด ำเนินนโยบำยในกำรท ำสงครำมขั้นแตกหักกับยำเสพติด
                              ผลการด าเนินนโยบายในการท าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ
               ชินวัตร ในช่วงระยะเวลาสามเดือนแห่งการปฏิบัติการอย่างเข้มงวดและไร้ความปราณี ปรากฏผลให้เห็น
               โดยชัดแจ้งว่า มี “ผู้เสียชีวิต” “อย่างกว้างขวาง” เป็นจ านวนมาก ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และเป็น
               จ านวน “มากผิดปกติ” โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของประชากรพลเรือนในช่วงสองปี

               ก่อนและช่วงสองปีหลังจากการด าเนินนโยบายในการท าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดดังกล่าว
                              การด าเนินนโยบายในการท าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ
               ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ น ามาซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงและในวงกว้างต่อประชากรพลเรือน การสูญเสีย

               ที่เกิดขึ้นจากการด าเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลมี “ลักษณะเฉพาะ” ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้
                              (๑) ผลต่อผู้เสียหาย และครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหาย
                              (๑.๑) การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชากรพลเรือนในสามลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่ การสูญเสียชีวิต
               การสูญหายอย่างไร้ร่องรอย และการสูญเสียทรัพย์สินของประชากรพลเรือนเป็นจ านวนมาก ครอบคลุมพื้นที่

               ต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย
                               (๑.๒) การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชากรพลเรือนดังกล่าวแทบทุกกรณีมักจะเกิดขึ้นภายหลัง
               จากที่ผู้เสียหาย (ซึ่งชื่อของตนปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด) ไปรายงานตัวต่อองค์กรของ
               รัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่ก าหนดไว้ในหนังสือเรียกให้รายงานตัว

                              กรณีจึงพิจารณาได้ว่า องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจัดท าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ
               ยาเสพติดขึ้นมา (โดยไม่มีหลักเกณฑ์) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือที่จะท าให้บุคคลที่มีชื่อในบัญชีนั้นกลายเป็น
               “เหยื่อ” และใช้บัญชีเดียวกันเป็นเครื่องมือเพื่อ “เรียก” “ชักจูง” หรือ “บังคับ” ให้บุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีนั้น
               “ปรากฏตัว” ต่อสาธารณะ และท าให้บุคคลนั้นเข้าสู่ “กับดัก” ที่มีการ “ก าหนดหรือวางไว้ล่วงหน้า” แล้ว

               ตามแผนการด าเนินการหรือ “แผนการจัดการ” กับบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีนั้น ผลที่ตามมาจึงปรากฏให้เห็น
               ในเรื่องร้องเรียนแทบทุกเรื่อง คือ บุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีนั้นจะถูกลอบสังหารหรือฆาตกรรมภายหลังจากไป
               รายงานตัวต่อองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งๆ ที่บุคคลเหล่านั้นมีเจตนาที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือ

               กฎระเบียบของฝ่ายปกครอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนว่าตนมิได้ผลิต ค้า หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
               แต่ประการใด
                               (๑.๓) การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชากรพลเรือนดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นกับผู้เสียหายหรือผู้มีชื่อ
               ในบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยตรงแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับ
               ผู้เสียหายยังส่งผลกระทบ “เป็นลูกโซ่” (Domino Effect) ต่อครอบครัวของผู้เสียหาย หรือญาติของผู้เสียหาย

               อีกด้วย ทั้ง “มิติทางเศรษฐกิจ”  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียผู้น าครอบครัว การขาดรายได้เพื่อการเลี้ยงชีพ
               การขาดไร้ผู้อุปการะบุตร การไม่มีทุนส าหรับการศึกษาของบุตร ปัญหาครอบครัวแตกแยก และ “มิติทาง
               จิตใจ” หรือ “ทางศีลธรรม” อันได้แก่ ความเจ็บปวด ความปวดร้าว หรือความทุกข์ระทมใจของครอบครัว

               ผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหาย จากการจากไปของผู้เสียหายในสภาพการณ์อันน่าหดหู่ใจและน่าเวทนาเช่นนี้
               การถูกสังคมรอบข้างต าหนิหรือดูหมิ่นดูแคลนว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมของการ
               ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้ ผลกระทบทั้งมิติทางเศรษฐกิจและมิติทางจิตใจ ครอบครัวของผู้เสียหาย
               หรือญาติของผู้เสียหายต้องถูกยัดเยียดให้แบกรับมาตลอดระยะเวลาสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา โดยปราศจากการท า
   227   228   229   230   231   232   233   234   235   236   237