Page 230 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 230
๒๑๓
๕.๑.๒ ลักษณะของกำรด ำเนินนโยบำยในกำรท ำสงครำมขั้นแตกหักกับยำเสพติด
เพื่อการปฏิบัติการให้เป็นไปตามเป้าหมายตามนโยบายในการท าสงครามขั้นแตกหักกับ
ยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงและเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องจึงรับนโยบายไปแปลงสู่การปฏิบัติการอย่างเร่งรีบเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าวให้ได้เร็วที่สุดและ
มากที่สุด การแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐมี “ลักษณะเฉพาะ” ซึ่งสามารถสรุปได้
ดังนี้
(๑) เจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงขององค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องรับไปด าเนินการตามที่เห็นสมควร
เพื่อให้การปฏิบัติการบรรลุเป้าหมายตามนโยบายดังกล่าวและตามที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรได้ก าหนดไว้
การปฏิบัติการในชั้นนี้ ได้แก่
(๑.๑) การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.) ทั้งในส่วนกลาง
คือ ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในกระทรวงมหาดไทย (ศตส. มท.) และในระดับจังหวัด
(ศตส.จ.) ระดับอ าเภอ (ศตส.อ.) และระดับกิ่งอ าเภอ (ศตส.กิ่ง อ.) เพื่อให้เป็นองค์กรหลักในทุกระดับชั้น
ในการปฏิบัติการตามนโยบายในการท าสงครามขั้นแตกหักกับยาเสพติดของรัฐบาลตามกรอบเวลาปฏิบัติการ
สามเดือนที่ก าหนดไว้ โดยมี ศตส. มท. เป็นองค์กรอ านวยการและประสานการปฏิบัติการระหว่าง ศตส.
ในทุกระดับ
(๑.๒) การมอบหมายภารกิจและหน้าที่โดย ศตส. มท. ให้แก่ ศตส. ในระดับต่างๆ
รับไปด าเนินการ กระท าโดยการออกค าสั่งเป็นหนังสือ (ด่วนที่สุด) เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง และการออก
ค าสั่งการในเรื่องต่างๆ และแก้ไขเปลี่ยนแปลงค าสั่งการเป็นหนังสือด่วนที่สุดเป็นระยะๆ แม้จะอยู่ในช่วง
ระยะเวลาการปฏิบัติการตามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลแล้วก็ตาม
(๒) เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการรับมอบภารกิจและหน้าที่จาก ศตส. มท. และน าไป
แปลงสู่การปฏิบัติตามความเข้าใจและความดุลพินิจของตน โดย ศตส. มท. มิได้ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขของการด าเนินการต่างๆ ให้ชัดเจนและรัดกุม ทั้งๆ ที่การด าเนินการตามนโยบายดังกล่าวย่อมจะ
ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพด้านต่างๆ ของประชาชนโดยทั่วไป
การปฏิบัติการในชั้นนี้ ได้แก่
(๒.๑) การจัดท าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด (“บัญชีด า”) ซึ่งเป็นเงื่อนไข
พื้นฐานประการส าคัญที่สุดที่องค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการปฏิบัติการของ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้เป็นตามเกณฑ์ชี้วัดผลส าเร็จตามนโยบายดังกล่าวที่มุ่งเน้นการลดจ านวนผู้ค้าหรือ
ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยการตัดตัวเลขจ านวนบุคคลออกจากบัญชีด าเป็นอัตราร้อยละในแต่ละช่วงเวลา
เพื่อให้สามารถสรุปผลการด าเนินงานได้ภายใน ๙๐ วัน ทั้งนี้ บุคคลผู้มีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีด าย่อมถูก
“สันนิษฐานโดยเคร่งครัด” ว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง และเป็น “วัตถุ” หรือ
“เป้าหมาย” แห่งการปฏิบัติการตามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์
(ชาวเขาและคนชายขอบ) บุคคลที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และบุคคลที่เคยมีความขัดแย้งกับ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ
เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของรัฐในองค์กรต่างๆ ที่ได้รับมอบภารกิจและ
หน้าที่ต่างต้องไปด าเนินการ “อย่างเร่งรีบ” และ “ภายใต้สภาวะกดดันอย่างหนัก” ในการจัดท าบัญชีรายชื่อ
ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตาม “วิธีการใดๆ” ที่ตนเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้ได้บัญชีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาให้เร็วที่สุด เพื่อใช้เป็น “ฐาน” ในการปฏิบัติการลดจ านวนผู้เกี่ยวข้อง