Page 222 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 222
๒๐๕
พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ก าหนดนโยบายในการปราบปรามยาเสพติดอันน ามาสู่ความผิดพลาด
อย่างร้ายแรงในการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว เป็นผู้ต้องรับผิดชอบต่อการก าหนดและการด าเนิน
นโยบายดังกล่าวอันน ามาซึ่งการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติแก่ประชากรพลเรือนอย่างกว้างขวางและ
อย่างรุนแรง ในลักษณะที่เป็นผู้ก่ออาชญากรรมดังกล่าวร่วมกับบุคคลอื่นและโดยผ่านบุคคลอื่นด้วย
เนื่องจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร สามารถก าหนดและควบคุมเจตนาของบุคคลทั้งหลายที่กระท าความผิด
ทางอาญาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายที่ตนก าหนด จนกระทั่งการก่ออาชญากรรมร้ายแรงได้กระท า
จนส าเร็จ ตามเจตนาของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ผู้ก าหนดนโยบายดังกล่าว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
จึงเป็นผู้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอันเป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศ และจะต้อง
ได้รับโทษตามธรรมนูญกรุงโรมฯ
ส าหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลายที่มีส่วนในการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติดังกล่าว
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เป็นข้าราชการประจ าหรือเจ้าหน้าที่ต ารวจในระดับต่างๆ ก็ต้องรับผิด
ทางอาญาและอาจต้องรับโทษในอาชญากรรมนั้น หากเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเช่นว่านั้นเป็นไป โดยเจตนาและ
มุ่งหมายที่จะสนับสนุนกิจกรรมทางอาชญากรรมหรือให้บรรลุความมุ่งประสงค์ทางอาชญากรรมของกลุ่ม
หรือรู้ถึงเจตนาของกลุ่มที่ประกอบอาชญากรรมนั้น โดยนัยดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระดับสูงของ
องค์กรต่างๆ ของรัฐซึ่งออกค าสั่งการต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ระดับล่างปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบาย
ย่อมมีส่วนในการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการมีส่วนเช่นนั้นเป็นไปโดยเจตนาและมุ่งหมายที่จะ
สนับสนุนการก่ออาชญากรรมนั้นหรือเพื่อให้บรรลุความมุ่งประสงค์ในการก่ออาชญากรรมเช่นนั้น
เจ้าหน้าที่ของรัฐเหล่านี้จึงกระท าความผิดอาญาในฐานะผู้ร่วมก่ออาชญากรรม (ตัวการ) ในขณะที่
เจ้าหน้าที่ระดับล่างที่รับค าสั่งมาและมีหน้าที่ต้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการ
ปราบปรามยาเสพติด การมีส่วนในการประกอบอาชญากรรมดังกล่าวมิได้เป็นไปโดยเจตนา การกระท าใน
ส่วนของตนมิได้เป็นไปโดยมุ่งหมายให้การสนับสนุนการประกอบอาชญากรรมนั้น หรือเพื่อให้บรรลุความ
มุ่งประสงค์ของอาชญากรรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่เหล่านี้จึงมีความผิดในฐานะผู้ให้การสนับสนุนหรือให้ความ
ช่วยเหลือในการประกอบอาชญากรรม (ผู้สนับสนุน) อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจต้องรับผิดทาง
อาญาตามความผิดอาญาสามัญในกรณีที่ตนกระท าการหรืองดเว้นกระท าการอันเป็นความผิดอาญาสามัญ
ด้วย
(๑.๓) กำรฟ้องคดีกำรก่ออำชญำกรรมต่อมนุษยชำติต่อศำลอำญำระหว่ำงประเทศ
๔๓๒
เมื่อได้พิจารณาบทบัญญัติตามข้อ ๑๒ ถึงข้อ ๑๕ ของธรรมนูญกรุงโรมฯ โดยละเอียด
แล้ว จะเห็นได้ว่าช่องทางการเริ่มคดีต่อศาลอาญาระหว่างประเทศมีสามวิธีด้วยกัน ได้แก่ การเริ่มคดีโดย
รัฐภาคี การเริ่มคดีโดยคณะมนตรีความมั่นคง (the Security Council) และการเริ่มคดีโดยอัยการประจ า
ศาลอาญาระหว่างประเทศ
๔๓๓
การเริ่มคดีโดยคณะมนตรีความมั่นคง คณะมนตรีความมั่นคงซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตาม
หมวด ๗ ของกฎบัตรสหประชาชาติ อาจเสนอกรณีซึ่งปรากฏว่าอาชญากรรมหนึ่งหรือมากกว่าได้กระท า
๔๓๒ Rome Statute, Article 12 Preconditions to the exercise of jurisdiction Article 13 Exercise
of jurisdiction Article 14 Referral of a situation by a State Party Article 15 Prosecutor
๔๓๓
Rome Statute, Article 13 (b) Exercise of jurisdiction
“The Court may exercise its jurisdiction with respect to a crime referred to in article 5 in
accordance with the provisions of this Statute if: