Page 209 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 209
๑๙๒
อาญาร้ายแรงที่มีก าหนดไว้ในข้อ ๗ วรรคหนึ่ง แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ อีกทั้งการกระท าความผิดอันเป็น
พื้นฐานดังกล่าวจะต้องครบองค์ประกอบความผิดในตัวเองของความผิดอาญาสามัญทั่วไปด้วย
(๑.๑.๒) องค์ประกอบภำยใน : องค์ประกอบเชิงเนื้อหำ
ก. หลักกฎหมำย
การกระท าความผิดอาญาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการด าเนินนโยบายของรัฐบาลใน
การปราบปรามยาเสพติดเช่นนั้นจะเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้ยังจะต้องประกอบด้วย
องค์ประกอบภายในอันเป็นองค์ประกอบเชิงเนื้อหา “เพิ่มเติมต่อยอด” ขึ้นอีกด้วย องค์ประกอบภายใน
หรือเชิงเนื้อหาขยองการกระท าความผิดที่จัดเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติเป็นไปตาม “บริบทเฉพาะ”
ของอาชญากรรมระหว่างประเทศลักษณะนี้เลยทีเดียว ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบส าคัญสองประการ
ได้แก่ ประการที่หนึ่ง การกระท าความผิดอาญาเหล่านั้น “เป็นส่วนหนึ่ง” ของการโจมตีหรือการ
ประทุษร้าย (หรือการก่อให้เกิดผลกระทบ) แก่ประชากรพลเรือนในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบ และ
ประการที่สอง ผู้กระท า“รู้ถึง”การโจมตีหรือการประทุษร้าย (การก่อให้เกิดผลกระทบ) ในวงกว้างหรือ
อย่างเป็นระบบต่อประชากร พลเรือนเช่นนั้น
ข. ข้อเท็จจริง
แม้ว่าการกระท าความผิดอาญาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการด าเนินนโยบายของรัฐบาล
ในการปราบปรามยาเสพติดดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น จะครบองค์ประกอบความผิดอาญาของการกระท า
ความผิดอาญาแต่ละลักษณะดังกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายหรือ
ท าให้บุคคลถึงแก่ความตายโดยเจตนา หรือการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของบุคคลโดยมิชอบ ด้วยการอุ้มหาย
หรือท าให้บุคคลสูญหายโดยฝ่าฝืนต่อเจตนาของบุคคลนั้น หากแต่การกระท าความผิดอาญาต่างๆ
ต่อบุคคลเป้าหมายหรือผู้เสียหายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศและในช่วงระยะเวลาต่างๆ เหล่านั้นมิใช่การ
กระท าความผิดอาญาเฉพาะรายคดีที่สิ้นสุดลงในตัวเอง หรือเป็นเอกเทศแยกต่างหากจากกันแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม การกระท าความผิดอาญาต่างๆ เหล่านั้นมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันและ “เป็นส่วนหนึ่ง”
ของการด าเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพียงประการเดียว คือ การก่อให้เกิดความเสียหายหรือการโจมตี
ประชากรพลเรือนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดในวงกว้าง อย่างต่อเนื่อง และอย่างเป็นระบบ กล่าวอีกนัยหนึ่ง
การกระท าความผิดอาญาต่างๆ ตามแผนการด าเนินการต่อบุคคลเป้าหมายและในพื้นที่เป้าหมายต่างๆ
ทั่วประเทศ เป็นการกระท าการที่กระท าเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งด าเนินการ
ไปในวงกว้าง อย่างเป็นระบบ และเป็นขั้นเป็นตอน ดังนี้
- การก าหนดนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติด และประกาศ
นโยบายดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติโดยนายกรัฐมนตรีในโอกาสต่างๆ
- การชี้แจงและมอบหมายภารกิจและหน้าที่แก่องค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ของ
รัฐในระดับต่างๆ เพื่อด าเนินการและปฏิบัติการให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลที่ก าหนดไว้
องค์กรหลักได้แก่ กระทรวงมหาดไทยและศูนย์ต่อสู้กับยาเสพติดในระดับจังหวัด ระดับอ าเภอ และระดับ
กิ่งอ าเภอ (ศตส. จ./ อ./ กิ่ง อ.) รัฐบาลมอบหมายภารกิจและหน้าที่โดยใช้ระบบ “Area Approach”
ซึ่งบูรณาการการด าเนินการระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการต ารวจภูธรจังหวัดให้ต้องท างาน
คู่กันโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพ ผู้บังคับการต ารวจภูธรจังหวัดเป็นรอง ผู้ว่าราชการจังหวัดและ