Page 205 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 205
๑๘๘
(๑.๒) กรณีกำรกระท ำควำมผิดอำญำของบุคคลผู้ก ำหนดนโยบำยอันเป็น
กำรเปิดช่องให้มีกำรกระท ำควำมผิดอำญำ
แม้โดยหลักกฎหมายอาญา การกระท าความผิดอาญาจะต้องพิจารณาจากการ
กระท าการหรือพฤติการณ์ของผู้กระท าความผิดอาญาอย่างชัดแจ้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เกี่ยวกับ
บุคคลผู้ก าหนดนโยบายในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด แม้จะมิได้เป็นผู้ลงมือกระท า
ความผิดอาญาโดยตรงด้วยตนเอง หากแต่ยังอาจมีค าถามอีกประการหนึ่งตามมาว่า บุคคลผู้ก าหนด
นโยบายในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจะมีความผิดอาญาฐานเป็น “ผู้ก่อ” ให้บุคคล
อื่นกระท าความผิดอาญาได้หรือไม่ เนื่องจากเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วจะเห็นได้ว่าการ
ด าเนินการนโยบายปราบปรามยาเสพติดดังกล่าว เป็นการด าเนินการเพื่อให้การกระท าการตามแผนการ
ด าเนินการโดยรวมดังกล่าวข้างต้นด าเนินไปอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอนตามล าดับ และสามารถบรรลุ
เป้าหมายตามที่ก าหนดไว้ในแผนการด าเนินการดังกล่าวได้อย่างแน่นอนและมีประสิทธิภาพ การกระท า
การต่างๆ ตามแผนการด าเนินการดังกล่าวจึงต้องมีพื้นฐานจาก “นโยบายของรัฐ” เป็นส าคัญ ในที่นี้ย่อม
ได้แก่ นโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ก าหนดและประกาศเป็นวาระแห่งชาตินั่นเอง
โดยนัยดังกล่าว รัฐบาลที่มี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้น า ได้ก าหนดและ
ประกาศนโยบายของในการปราบปรามยาเสพติด ตลอดจนองค์กรและเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของรัฐที่มีหน้าที่
จะต้องไปด าเนินการตามล าดับชั้น (ตามระบบ “Area Approach” ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการ
ต ารวจภูธรจะต้องด าเนินการร่วมกันแบบ “ปาท่องโก๋”) และแนวทางอย่างกว้างๆ ในการด าเนินการของ
องค์กรและเจ้าหน้าที่ต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ก าหนดไว้ในนโยบายโดยเคร่งครัด โดยก าหนดให้
ใช้วิธีการรุนแรงและตอบโต้อย่างเข้มข้นต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และก าหนดจุดหมายปลายทางของ
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไว้เพียงสองแห่งเท่านั้น คือ “คุก” หรือ “วัด”ทั้งนี้ โดยไม่ค านึงถึงหลักนิติรัฐ
และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลที่เป็นเป้าหมาย ทั้งนี้ ในการก าหนดและประกาศนโยบายในการ
ปราบปรามยาเสพติดดังกล่าว รัฐบาลปล่อยให้องค์กรหรือเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของรัฐที่มีหน้าที่ด าเนินการตาม
นโยบายนั้นไปก าหนดวิธีด าเนินการต่างๆ กันเอง เพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลเป็น
ส าคัญเท่านั้น
(๒) กำรกระท ำควำมผิดอำญำตำมกฎหมำยเฉพำะ
พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้ก าหนดมาตรการในการตรวจค้น การยึดทรัพย์สิน ของผู้ต้องสงสัยว่ามีการกระท าความผิด
เกี่ยวกับยาเสพติดไว้ดังนี้
- กำรตรวจค้นเคหสถำน (รถยนต์/ บ้ำนเรือน)
มาตรา ๒๕ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและตรวจสอบทรัพย์สิน ยึด หรือ
อายัดทรัพย์สินตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการ อนุกรรมการและเลขาธิการมีอ านาจดังต่อไปนี้
ฯลฯ ฯลฯ
(๓) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ หรือยานพาหนะใดที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามี
การกระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือมีทรัพย์สินตามมาตรา ๒๒ ซุกซ่อนอยู่ เพื่อท าการตรวจค้น
หรือเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ยึด หรืออายัดทรัพย์สิน ในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึง