Page 154 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 154
๑๓๗
๓๓๕
อันเป็นการยอมรับอ านาจศาล “เป็นการเฉพาะคราว” (ad hoc acceptance) ก็ได้ ในกรณีเช่นนั้น
ศาลอาญาระหว่างประเทศก็จะมีเขตอ านาจเหนือความผิดหรืออาชญากรรมที่ได้กระท าขึ้นในรัฐนั้นได้โดย
ทันที โดยนัยดังกล่าว ศาลอาญาระหว่างประเทศจึงอาจปฏิบัติหน้าที่และใช้อ านาจตามที่ก าหนดไว้ใน
๓๓๖
ธรรมนูญกรุงโรมฯ เหนือดินแดนของรัฐภาคี และเหนือดินแดนของรัฐอื่นใดตามความตกลงพิเศษ
อนึ่ง แม้รัฐจะเข้าเป็นภาคีธรรมนูญกรุงโรมฯ หรือยอมรับอ านาจศาลอาญา
ระหว่างประเทศเพื่อให้ศาลสามารถพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่การเสนอเรื่องอาชญากรรมร้ายแรง
ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศได้ยังจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการกระท าอันเป็นการ
ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอีกด้วย
ข. เงื่อนไขเชิงเนื้อหำ: เงื่อนไขเกี่ยวกับกำรกระท ำอันเป็นกำรก่อ
อำชญำกรรมต่อมนุษยชำติ
โดยที่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้จัดตั้งขึ้นในลักษณะสถาบันถาวร
และมีอ านาจเหนือบุคคลในกรณีเกี่ยวกับอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งอยู่ในความห่วงใย
๓๓๗
ของประชาคมระหว่างประเทศเป็นส าคัญ ศาลอาญาระหว่างประเทศจึงมีเขตอ านาจจ ากัดและ
เคร่งครัด หากศาลอาญาระหว่างประเทศมีเขตอ านาจเหนือเฉพาะแต่อาชญากรรมร้ายแรงสี่ลักษณะดังที่
ก าหนดไว้ในข้อ ๕ วรรคหนึ่ง แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ อันได้แก่ อาชญากรรมอันเป็นการท าลายล้าง
๓๓๙
๓๓๘
เผ่าพันธุ์ (The crime of genocide) อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crimes against humanity)
๓๔๐
อาชญากรรมสงคราม (War crimes) และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน (The crime of
๓๔๑
aggression) อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการกระท า
ความผิดตามที่ก าหนดไว้ในธรรมนูญกรุงโรมฯ ซึ่งประกอบด้วยเงื่อนไขส าคัญสองประการ ได้แก่ ข.๑)
เงื่อนไขเกี่ยวกับช่วงเวลาของการกระท าความผิดอาญาร้ายแรง และ ข.๒) เงื่อนไขเกี่ยวกับผู้กระท า
ความผิดอาญาร้ายแรง
ข.๑) เงื่อนไขเกี่ยวกับช่วงเวลำของกำรกระท ำควำมผิดอำญำร้ำยแรงกับกำร
มีผลใช้บังคับของธรรมนูญกรุงโรมฯ
การกระท าความผิดอาญาร้ายแรงลักษณะต่างๆ ตามธรรมนูญกรุงโรมฯ
ที่จะเสนอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศพิจารณาได้นั้น จะต้องเกิดขึ้นภำยหลังจำกที่ศำลอำญำระหว่ำง
๓๔๒
ประเทศมีเขตอ ำนำจ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ศาลมีเขตอ านาจเฉพาะกับอาชญากรรมซึ่งกระท าขึ้นหลังจากที่
๓๓๕ Rome Statute, Article 12 Preconditions to the exercise of jurisdiction, paragraph 3.
“3. If the acceptance of a State which is not a Party to this Statute is required under
paragraph 2, that State may, by declaration lodged with the Registrar, accept the exercise of
jurisdiction by the Court with respect to the crime in question. The accepting State shall cooperate
with the Court without any delay or exception in accordance with Part 9”.
๓๓๖ Rome Statute, Article 4 Legal status and powers of the Court.
๓๓๗ Rome Statute, Article 1 The Court.
๓๓๘ Rome Statute, Article 6 Genocide.
๓๓๙
Rome Statute, Article 7 Crimes against humanity.
๓๔๐
Rome Statute, Article 8 War crimes.
๓๔๑
Rome Statute, Article 5 Crimes within the jurisdiction of the Court, paragraph 2.
๓๔๒ ศาลอาญาระหว่างประเทศมีเขตอ านาจนับแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๐๒ (พ.ศ. ๒๕๔๕)