Page 149 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 149
๑๓๒
ข.๒) ผู้กระท า “รู้ถึง” การโจมตีหรือการประทุษร้าย (หรือการก่อให้เกิด
ผลกระทบ) ในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบต่อประชาชนพลเรือนเช่นนั้น ซึ่งประเด็นดังกล่าว
มีข้อพิจารณาตามล าดับดังนี้
ประเด็นที่หนึ่ง ความหมายของการรู้ถึงการโจมตีที่ก่อให้เกิดความรับผิดฐาน
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crimes against humanity committed "with knowledge of the
attack")
ข้อ ๗ วรรคหนึ่งของธรรมนูญกรุงโรมฯ ก าหนดไว้อย่างชัดแจ้งว่า
ความรับผิดอันเกิดจากการกระท าอันเป็นการโจมตีหรือการประทุษร้ายในวงกว้างหรือกระท า
อย่างเป็นระบบต่อประชากรพลเรือนนั้น อย่างน้อยที่สุดผู้กระท าจ ะ ต้องรู้ถึงการโจมตีหรือ
๓๑๔
การประทุษร้ายดังกล่าว (at least be aware of the attack) ทั้งนี้ การรู้ (knowledge)
ของผู้กระท าความผิดย่อมเป็นไปตามข้อ ๓๐ (๓) ของธรรมนูญกรุงโรมฯ ซึ่งก าหนดว่า “การรู้”
(knowledge) หมายถึงการรู้ส านึก (awareness) ถึงสภาวการณ์ที่เป็นอยู่หรือผลที่จะเกิดขึ้นโดยทั่วไป
๓๑๕
จากสภาวการณ์ดังกล่าว
การที่ธรรมนูญกรุงโรมฯ ได้ก าหนดองค์ประกอบเรื่องการโจมตีในวงกว้างหรือ
อย่างเป็นระบบย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นองค์ประกอบที่ส าคัญและเป็นองค์ประกอบหลัก (essential and
central element) ที่มีผลเป็นการยกระดับความรับผิดทางอาญาทั่วไป (ordinary crime) ไปสู่ความรับ
ผิดทางอาญาที่ร้ายแรงที่สุดต่อมวลมนุษยชาติ (the most serious crimes known to humanity)
ดังนั้น ความรับผิดของบุคคลที่ได้กระท าความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติจึงต้องเกิดจากการที่
บุคคลนั้นได้รู้ถึงองค์ประกอบทางกฎหมายที่เป็นสาระส าคัญและเป็นองค์ประกอบหลักของความรับผิด
อาญาร้ายแรงดังกล่าวด้วย มิฉะนั้นกรณีอาจเป็นการละเมิดต่อหลักกฎหมายอาญาที่ว่า “actus non
๓๑๖
facit reum nisi mens sit rea”
ประเด็นที่สอง ขอบเขตของการรู้ถึงการกระท าความผิด
การกระท าความผิดอาญาในประการต่างๆ ข้างต้นอันเป็นส่วนหนึ่งของ
การโจมตีหรือการประทุษร้ายต่อประชากรพลเรือนโดยตรงดังกล่าวข้างต้นนั้น ผู้กระท าความผิดอาญา
ร้ายแรงอันมีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติจะต้องกระท าโดย “รู้ถึงการกระท าความผิด” ของตน
๓๑๗
ซึ่งจะต้องครอบคลุมทั้งในสองระดับ กล่าวคือ ระดับที่หนึ่ง การรู้ถึงการโจมตีหรือการประทุษร้าย
ในวงกว้างและอย่างเป็นระบบต่อประชากรพลเรือนโดยตรง ผู้กระท าจึงย่อมต้องรู้หรือทราบถึงนโยบาย
ของรัฐหรือองค์การอันเป็นที่มาหรือสาเหตุของการด าเนินการเช่นนั้นซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียหรือความ
๓๑๔ Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 51.
๓๑๕ Rome Statute, Article 30 Mental element
3. For the purposes of this article, "knowledge" means awareness that a circumstance exists or
a consequence will occur in the ordinary course of events. "Know" and "knowingly" shall be construed
accordingly.
๓๑๖
Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 52.
๓๑๗
โปรดดู Robert Cryer, Hakan Friman, Darryl Robinson and Elizabeth Wilimshurst, An
nd
Introduction to International Criminal Law and Procedure, 2 ed., Cambridge University Press, 2010, p.
244.