Page 157 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 157

๑๔๐




                   ซึ่งท าให้บุคคลนั้นไม่อาจรับรู้ถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการกระท า (unlawfulness)
                                                                                     ๓๕๖
                   สภาพของการกระท าของตน หรือความสามารถที่จะควบคุมการกระท าของตนได้
                                         ข. กรณีมีควำมจ ำเป็นอันเนื่องมำจำกปัจจัยภำยนอก
                                         นอกจากความบกพร่องเกี่ยวกับผู้กระท าความผิดอันจะเป็นข้อยกเว้น
                   ความรับผิดทางอาญาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ธรรมนูญกรุงโรมฯ ยังได้ก าหนดข้อยกเว้นความรับผิด
                   ทางอาญาอันเนื่องมาจากกรณีมีความจ าเป็นอันเนื่องมาจากปัจจัยภายนอกอีกด้วย ซึ่งได้แก่ ข.๑)
                   ความจ าเป็นเพื่อคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน และ ข.๒) ความจ าเป็นอันเนื่องจากสภาพการณ์บังคับ

                                         ข.๑) ควำมจ ำเป็นเพื่อป้องกันหรือคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน
                                         ธรรมนูญกรุงโรมฯ ก าหนดว่าบุคคลไม่ต้องรับผิดทางอาญา หากว่า
                   ในขณะที่ประกอบอาชญากรรม บุคคลนั้นกระท าการโดยมีเหตุผลเพื่อป้องกันตนเองหรือบุคคลอื่น

                   หรือในกรณีของอาชญากรรมสงคราม เพื่อป้องกันทรัพย์สินที่จ าเป็นต่อความอยู่รอดของตนหรือของบุคคล
                                                                        ๓๕๗
                   อื่น หรือป้องกันทรัพย์สินที่จ าเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจทางทหาร
                                         ข.๒) ควำมจ ำเป็นอันเนื่องจำกสภำพกำรณ์บังคับ
                                         นอกจากความความจ าเป็นเพื่อป้องกันหรือคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สินแล้ว

                   ธรรมนูญกรุงโรมฯ ยังได้ก าหนดเหตุยกเว้นความรับผิดทางอาญาของบุคคลอีกประการหนึ่ง คือ ความ
                   จ าเป็นอันเนื่องจากสภาพการณ์บังคับ กล่าวคือ การกระท าการที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการ
                   ก่ออาชญากรรมร้ายแรงที่อยู่ในเขตอ านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศนั้นมีสาเหตุมาจากสภาพบังคับ
                   อันเป็นผลมาจากการคุกคามต่อความตายที่ใกล้จะถึง (duress resulting from a threat of imminent

                   death) หรือต่อการบาดเจ็บทางกายอย่างสาหัส (imminent  serious  bodily  harm) ต่อตนเองหรือ
                   บุคคลอื่น และบุคคลนั้นได้กระท าการที่จ าเป็นและสมเหตุผลในการหลีกเลี่ยงจากการคุกคามดังกล่าว
                   ทั้งนี้ การคุกคามดังกล่าวอาจกระท าโดยบุคคลอื่นหรือเกิดขึ้นจากสภาวการณ์อื่น นอกเหนือการควบคุม
                                 ๓๕๘
                   ของบุคคลนั้นก็ได้
                                         อย่างไรก็ตาม ในการกระท าการที่ถูกกล่าวหา บุคคลนั้นจะต้องไม่มีเจตนาที่จะ
                   ก่อให้เกิดอันตรายยิ่งไปกว่าอันตรายที่จะหลีกเลี่ยง
                                 ๓.๒.๒ หลักกฎหมำยเกี่ยวกับควำมผิดอำญำร้ำยแรงระหว่ำงประเทศ

                                         เมื่อได้พิจารณากฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับการกระท าความผิดอาญา
                   ร้ายแรงระหว่างประเทศทั้งสองฉบับดังกล่าวข้างต้น อันได้แก่ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง
                   และสิทธิทางการเมือง และธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ แล้ว จะสังเกตได้ว่า
                   กฎหมายระหว่างประเทศทั้งสองฉบับดังกล่าวได้ก าหนดหลักกฎหมายเกี่ยวกับความผิดอาญาระหว่าง
                   ประเทศไว้ในท านองเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยหลักกฎหมายส าคัญสามประการ ได้แก่ ก. หลักการคุ้มครอง

                   ผู้ถูกกล่าวหาและผู้เสียหาย ข. หลักการไม่เลือกปฏิบัติและการไร้ความคุ้มกัน ค. หลักความเป็นเอกเทศ
                   และอ านาจเหนือของกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ




                          ๓๕๖  Rome Statute, Article 31 Grounds for excluding criminal responsibility, paragraph 1 (a) (b).
                          ๓๕๗
                              Rome Statute, Article 31 Grounds for excluding criminal responsibility, paragraph 1 (c).
                          ๓๕๘
                              Rome Statute, Article 31 Grounds for excluding criminal responsibility, paragraph 1 (d).
   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162