Page 142 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 142

๑๒๕




                                         - ประเทศแคนาดา: ศาลสูงสุดแห่งประเทศแคนาดา (the Supreme Court of
                   Canada)  ได้วางหลักในคดี Finta  ว่า สิ่งที่แบ่งแยกอาชญากรรมต่อมนุษยชาติออกจากความผิดอาญา

                   ฐานอื่นๆ ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาแคนาดา (Canadian  Criminal  Code)  นั่นก็คือ การกระท า
                   ทารุณโหดร้าย (cruel)  และการกระท าที่ร้ายแรง (terrible)  ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบส าคัญของความผิด
                   ฐานดังกล่าว โดยเกิดขึ้นจากการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายว่าด้วยการเลือกปฏิบัติหรือการกระท า
                                                                                    ๒๘๗
                   อันเป็นการรังควานต่อกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะพิเศษในด้านอัตลักษณ์หรือเชื้อชาติ
                                         ประเด็นที่สอง การโจมตีหรือประทุษร้ายประชากรที่เป็นพลเรือนจ าเป็นต้องมี

                   นโยบายของรัฐหรือองค์การหรือไม่

                                         หากพิจารณาจากมาตรา ๗        วรรคหนึ่ง (a)   แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ
                   ซึ่งบัญญัติว่า “การโจมตีซึ่งกระท าต่อพลเรือน หมายถึง การกระท าหลายครั้งตามวรรคหนึ่ง

                   ต่อพลเรือนที่เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐหรือองค์การ” จะเห็นได้ว่าการกระท าความผิดฐาน
                   อาชญากรรมต่อมนุษยชาติจ าเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐหรือองค์การ
                                         อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากธรรมนูญจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะ
                   กิจส าหรับอดีตประเทศยูโกสลาเวีย (ICTY) จะพบว่าธรรมนูญ มิได้ก าหนดให้นโยบายของรัฐ (state

                   policy)  เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติซึ่งแตกต่างไปจากการ
                   ก าหนดในธรรมนูญแห่งกรุงโรม แต่ในทางปฏิบัติของศาล ICTY พบว่าศาลเองก็ไม่ได้ปฏิเสธถึงการมีอยู่ของ
                   องค์ประกอบในเรื่องดังกล่าว เพราะแม้ว่าธรรมนูญจะไม่ได้มีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจน แต่ศาลก็ยังเห็นว่า
                   การกระท าหรือการโจมตีโดยตรงต่อประชากรที่เป็นพลเรือน จะเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าการกระท าดังกล่าว

                   ได้สนับสนุนจากนโยบายหรือแผนที่ก าหนดขึ้นโดยรัฐหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งอยู่ในตัว โดยศาล ICTY ได้
                   วางหลักการส าคัญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไว้ ดังนี้
                                         (๑)  แม้ธรรมนูญจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกิจส าหรับอดีตประเทศ
                   ยูโกสลาเวีย (ICTY) จะมิได้ก าหนดให้นโยบายของรัฐ (state     policy)     เป็นองค์ประกอบ

                   ส่วนหนึ่งของความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่ศาลได้กล่าวถึงความส าคัญขององค์ประกอบ
                   เรื่องนโยบายของรัฐอย่างชัดเจนในคดี The Prosecutor v Dragan Nikolić (๑๙๙๕) โดยศาลอธิบายว่า
                   แม้ธรรมนูญ ICTY  จะไม่ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐไว้อย่างชัดเจนก็ตาม แต่เป็นที่เข้าใจกันว่าการกระท า

                   ความผิดฐานดังกล่าวย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้จากการด าเนินงานของปัจเจกชนคนหนึ่งคนใดแต่เพียงล าพัง
                                                                        ๒๘๘
                   (they cannot be the work of isolated individuals alone)
                                         (๒)    นโยบายอาจเกิดขึ้นจากการก าหนดของรัฐหรือองค์การใดองค์การหนึ่ง
                   โดยศาล ICTY  ยืนยันว่า อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ไม่จ าเป็นต้องเกี่ยวข้องกับนโยบายที่ก าหนดขึ้น
                   ในระดับรัฐเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายเช่นว่านี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นจากอ านาจของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้
                             ๒๘๙
                   โดยล าพัง  การก าหนดนโยบายที่จะน าไปสู่ความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
                   อาจเกิดขึ้นได้จากการก าหนดนโยบายขององค์การใดองค์การหนึ่งซึ่งครอบครองเขตพื้นใดพื้นหนึ่ง



                          ๒๘๗  Regina v. Finta, [1994] 1 S.C.R. 701, 814, in Darryl Robinson, อ้างแล้ว, p. 49-50.
                          ๒๘๘
                              The Prosecutor v Dragan Nikolić (Trial Chamber Review of the Indictment Pursuant to
                   Rule 61 of  the Rules of Procedure and Evidence) IT-94-2-R61 (20 October 1995), para. 26.
                          ๒๘๙
                              Prosecutor v. Nikolic, Review of the Indictment Pursuant to Rule 61, No. IT-94-2-R61, para.
                   26 (Oct 20, 1995).
   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147