Page 136 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 136
๑๑๙
๒๕๕
หรือสู้รบต่อผู้กดขี่หรือไม่ก็ตาม กล่าวโดยสรุปแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า การกระท าใดจะเป็นความผิด
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity) นั้นมิได้พิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายที่ตกเป็น
เหยื่อ (not the identity of the victims) หากแต่พิจารณาจากการกระท าว่าเป็นไปตามองค์ประกอบ
๒๕๖
ทางกฎหมายของความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity) หรือไม่
(๒) ค ำพิพำกษำของศำล ICTY และ ICTR
ศาล ICTY
ศาล ICTY ได้น าค าพิพากษาในคดี Barbie มาใช้เป็นแนวทางในการตัดสินคดี
โดยเห็นว่าความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติน ามาใช้กับการกระท าอันเป็นการโจมตีโดยตรงต่อ
เหยื่อ (victims) ซึ่งอาจเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้ต่อต้าน (member of a resistance) หรือพลเรือน
๒๕๗
(civilians) ก็ได้ ในที่นี้ มีคดีส าคัญที่เกี่ยวข้องอยู่สามคดี ได้แก่ คดี The Prosecutor v. Mile Mrkšić et
al (๑๙๙๖) คดี The Prosecutor v. Dusko Tadić (๑๙๙๗) และคดี The Prosecutor v. Jean-Palu
Akayesu (๑๙๙๘)
ในคดี The Prosecutor v. Mile Mrkšić et al (๑๙๙๖) ศาลได้กล่าวว่า หาก
พิจารณาตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาแต่ดั้งเดิม (traditional sense) จะพบว่า “ผู้ต่อสู้หรือผู้ท าการรบ”
(combattants) ย่อมไม่อาจเป็นเหยื่อของการโจมตีได้ และเหยื่อในที่นี้ไม่ได้หมายความรวมถึงปัจเจก
บุคคลเพียงคนใดคนหนึ่งซึ่งท าการต่อต้าน (individuals who carried out acts of resistance) และ
แม้ว่าผลจากการศึกษาของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในองค์การสหประชาชาติ ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า
บทบัญญัติมาตรา ๕ ของธรรมนูญ ICTY มุ่งหมายใช้กับพลเรือน (civilian) ซึ่งหมายถึง ประชาชนผู้ซึ่งมิได้
เป็นผู้ต่อสู้หรือผู้ท าการรบก็ตาม แต่ก็ไม่ควรด่วนสรุปว่าบุคคลซึ่งท าการต่อสู้หรือท าการรบจะไม่มีทางตก
เป็นเหยื่อของการโจมตีได้ กรณีจ าต้องพิจารณาจากสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ เพื่อให้
๒๕๘
เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๕ มากที่สุด
จากการพิจารณาข้อเท็จจริงในคดีนี้ ศาลได้พบว่าบุคคลผู้ท าการต่อสู้เพื่อ
ต่อต้าน (resistance fighters) ซึ่งอยู่ท่ามกลางพลเรือน ไม่อาจเปลี่ยนแปลงลักษณะของการเป็น
ประชากรที่เป็นพลเรือนไปได้ ซึ่งต้องถือว่าผู้ท าการต่อสู้เพื่อต่อต้าน คือ เหยื่อซึ่งเป็นเป้าหมายของการ
โจมตีอันน าไปสู่ความรับผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้เช่นเดียวกัน (victims of crimes against
๒๕๙
humanity) ซึ่งในเรื่องนี้ ศาลได้กล่าวว่า “...แม้ว่าเป้าหมายของการโจมตีตามความรับผิดฐาน
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ คือ ประชากรที่เป็นพลเรือน (civilian population) แต่ในบางสถานการณ์
บุคคลบางกลุ่ม (individuals) ก็อาจมีการกระท าในลักษณะเป็นการต่อต้าน (performed act of
resistance) และอาจกลายเป็นเหยื่อของการโจมตีได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ในแง่นี้ไม่ว่าพลเรือน (civilians)
๒๕๕
Caroline Fournet, อ้างแล้ว, p. 14.
๒๕๖ Caroline Fournet, เพิ่งอ้าง.
๒๕๗
Caroline Fournet, อ้างแล้ว, p. 18.
๒๕๘
The Prosecutor v. Mile Mrkšić et al (Trial Chamber Review of the Indictment Pursuant to
Rule 61 of the Rules of Procedure and Evidence) IT-95-13-R61 (3 April 1996) para 29.
๒๕๙ Caroline Fournet, อ้างแล้ว, p. 19.