Page 133 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 133

๑๑๖




                                         ข. องค์ประกอบภำยใน: องค์ประกอบเชิงเนื้อหำ
                                         หากองค์ประกอบภายนอกหรือองค์ประกอบเชิงรูปแบบอันเกี่ยวกับการกระท า

                   ความผิดที่ต้องห้ามดังที่ก าหนดไว้โดยชัดแจ้งในข้อ ๗   วรรคหนึ่ง ของธรรมนูญกรุงโรมฯ
                   ไม่มีความสลับซับซ้อนและย่อมพิจารณาตามกรอบของความผิดอาญาสามัญทั่วไปได้ องค์ประกอบภายใน
                   ของการกระท าความผิดเช่นนั้นอันจะท าให้จัดการกระท าเช่นนั้นเป็นอาชญากรรม
                   ต่อมนุษยชาติมีความสลับซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งเป็นองค์ประกอบเชิงเนื้อหาตาม “บริบทเฉพาะ”
                   ของอาชญากรรมระหว่างประเทศลักษณะนี้เลยทีเดียว

                                         เมื่อได้พิจารณานิยามของ “Crime  of  humanity” หรือ “อาชญากรรม
                   ต่อมนุษยชาติ” ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบภายในของการกระท าความผิดที่จัดเป็น
                   อาชญากรรมต่อมนุษยชาติประกอบด้วยองค์ประกอบส าคัญสองประการ ได้แก่ ประการที่หนึ่ง

                   การกระท าความผิดเหล่านั้น “เป็นส่วนหนึ่ง” ของการโจมตีหรือการประทุษร้าย (หรือการก่อให้เกิด
                   ผลกระทบ) แก่ประชากรพลเรือนในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบ และประการที่สอง ผู้กระท า “รู้ถึง”การ
                   โจมตีหรือการประทุษร้าย (การก่อให้เกิดผลกระทบ) ในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบต่อประชากรพลเรือน
                   เช่นนั้น

                                         ประกำรที่หนึ่ง การกระท าความผิดเหล่านั้น “เป็นส่วนหนึ่ง” ของการโจมตี
                   หรือการประทุษร้าย (attack) ประชากรพลเรือนในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบ
                                         การกระท าความผิดต่างๆ ดังที่ก าหนดไว้ในข้อ ๗ วรรคหนึ่ง แห่งธรรมนูญกรุง
                   โรมฯ จะต้องมิใช่การกระท าที่เป็นเอกเทศหรือเป็นครั้งคราวและสิ้นสุดลงไปในตัวเอง

                   หากแต่กระท าขึ้นในลักษณะ “เป็นส่วนหนึ่ง” (“committed  as  a  part  of”) ของการโจมตีหรือการ
                   ประทุษร้ายประชากรพลเรือน (civilian           population) ในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบ
                   (a  widespread  or  systematic  attack) ดังที่ข้อ ๗ วรรคสอง แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ ก าหนดไว้
                   โดยชัดแจ้ง ความว่า “เพื่อวัตถุประสงค์ของวรรคหนึ่ง (ก) “การโจมตีที่มีเป้าหมายต่อประชาชน

                   พลเรือนใดๆ” หมายถึง กระบวนการกระท าซึ่งด าเนินไปครั้งแล้วครั้งเล่าต่อประชากรพลเรือนใดๆ
                   ดังอ้างถึงในวรรค ๑ อันเป็นการด าเนินการตามหรือส่งเสริมนโยบายของรัฐหรือองค์การที่จะกระท า
                                   ๒๔๘
                   การโจมตีเช่นว่า...”
                                         ปัญหาที่จะต้องพิจารณาในที่นี้ย่อมจะได้แก่ “ประชากรพลเรือน”
                   มีความหมายว่าอย่างไร และการโจมตีหรือการประทุษร้าย “ในวงกว้าง” หรือ “อย่างเป็นระบบ”
                   มีลักษณะอย่างไร ซึ่งมีข้อพิจารณาตามล าดับ ดังนี้
                                         ■ การโจมตีหรือการประทุษร้ายกระท าต่อประชากรที่เป็นพลเรือน (attack

                   directed against any civilian population)


                          ๒๔๘
                              Rome Statute, Article 7 Crimes against humanity
                            2. For the purpose of this paragraph 1:
                               (a) “Attack directed against any civilian population” means a course of conduct involving the multiple commission of
                   acts referred to in paragraph 1 against any civilian population, pursuant to or in furtherance of a State or organizational policy to
                   commit such attack, …”
                          โปรดดู กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ. ค าแปลธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ,
                   อ้างแล้ว, หน้า ๔ .
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138