Page 131 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 131
๑๑๔
เป้าหมายหลักของการโจมตีหรือประทุษร้ายเช่นนั้น คือ ประชากรพลเรือนไม่ว่า
จะเป็นประชากรพลเรือนของรัฐซึ่งเป็นผู้กระท าการนั้นเอง หรือประชากรพลเรือนใดๆ ที่มิใช่ประชากร
พลเรือนของรัฐนั้นก็ได้ ดังที่ ข้อ ๗ วรรคหนึ่ง แห่งธรรมนุญกรุงโรมฯ ใช้ค าว่า “โดยมีเป้าหมายต่อ
ประชากรพลเรือนใด” (any civilian population) อันได้แก่ พลเรือนทั่วไปหรือปัจเจกชนทั่วไปนั่นเอง
ทั้งนี้ ข้อ ๗ วรรคสอง (ก) แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ ได้ให้นิยามของค าว่า “การโจมตีที่มีเป้าหมายต่อ
ประชากรพลเรือนใดๆ” (Attack directed against any civilian population) ว่าหมายถึง
“กระบวนการกระท าซึ่งด าเนินไปครั้งแล้วครั้งเล่าต่อประชากรพลเรือนใดๆ ดังอ้างถึงในวรรค ๑ อันเป็น
การด าเนินการตามหรือส่งเสริมนโยบายของรัฐหรือองค์การที่จะกระท าการโจมตีเช่นว่า”
การที่ธรรมนูญกรุงโรมฯ ใช้ถ้อยค าว่า “ประชากรพลเรือน” เช่นนี้น่าจะมี
วัตถุประสงค์เพื่อมุ่งหมายถึงเหยื่อหรือผู้ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบได้แก่บุคคลหรือปัจเจกชน
ทั่วไปซึ่งแสดงถึงนัย “จ านวนมาก” อันส่งผลกระทบ “เชิงจิตวิทยา” ต่อประชากรพลเรือนที่เป็นเป้าหมาย
ของการโจมตีหรือการประทุษร้าย และประชากรพลเรือนที่ตกเป็นเป้ าหมายจะต้องมี
ความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เช่น เป็นสมาชิกกลุ่มเป้าหมายการโจมตีหรือการประทุษร้าย ซึ่งท าให้การ
โจมตีหรือการประทุษร้ายสามารถกระท าได้โดยสะดวกเพราะมีเป้าหมายของการกระท าที่ชัดเจน
ประกำรที่สี่ ผู้กระท ารู้ถึงการโจมตีหรือการก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างหรือ
อย่างเป็นระบบต่อประชาชนพลเรือนเช่นนั้น
(๒.๑.๒) องค์ประกอบควำมผิดของอำชญำกรรมต่อมนุษยชำติ
จากลักษณะส าคัญสี่ประการดังกล่าวข้างต้น การกระท าความผิดอาญาร้ายแรง
ในลักษณะของอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมระหว่างประเทศ ประกอบด้วย
องค์ประกอบความผิดที่มีลักษณะเฉพาะเป็นของตนเองซึ่งแตกต่างไปจากองค์ประกอบความผิดของ
ความผิดอาญาสามัญทั่วไป ซึ่งแบ่งออกได้เป็นสองลักษณะ ได้แก่ ก. องค์ประกอบภายนอก: องค์ประกอบ
เชิงรูปแบบ และ ข. องค์ประกอบภายใน: องค์ประกอบเชิงเนื้อหา ทั้งนี้ การกระท าความผิดอาญาร้ายแรง
ที่จัดเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายใน
ประกอบกัน
ก. องค์ประกอบภำยนอก: องค์ประกอบเชิงรูปแบบ
การกระท าที่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามนัยแห่งข้อ ๗ วรรคหนึ่ง ของ
ธรรมนูญกรุงโรมฯ จะต้องเป็นการกระท าความผิดลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังที่ก าหนดไว้
โดยชัดแจ้งในบทบัญญัติดังกล่าว ทั้งนี้ การกระท าความผิดอาญาร้ายแรงที่มีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อ
๒๔๔
มนุษยชาติแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
กลุ่มที่หนึ่ง การกระท าความผิดอาญาร้ายแรงฐานฆ่าคนตายหรือความผิด
ที่คล้ายคลึงกัน (Crime of murder type) อันได้แก่ การฆาตกรรม การท าลายล้างการกระท าทรมาน
การบังคับให้สูญหาย อาชญากรรมทางเพศต่อสตรี หรือการกระท าที่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
หรือที่ไร้มนุษยธรรมอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันโดยมีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่าง
๒๔๔ โปรดดู David Luban, A Theory of Crimes Against Humanity, Yale Journal of International Law, 2004, p. 8 อ้างอิงใน
พันต ารวจตรีกฤษฎิ์ สถิตย์วัฒนานนท์, กฎหมายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ: ประเด็นพื้นฐานทางกฎหมาย (Crimes
against Humanity), หน้า 9. http://www.policescience.rpca.ac.th/crimes.pdf