Page 130 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 130

๑๑๓




                   “การลดคุณค่า” ความเป็นมนุษย์ (a  grave  humiliation  or  a  degradation  of  human  beings)
                   หากแต่การกระท าความผิดอาญาเช่นนั้น “เป็นส่วนหนึ่ง” ของการด าเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพียง

                   ประการเดียว คือ การก่อให้เกิดความเสียหายหรือการโจมตีบุคคลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด
                   ในวงกว้าง อย่างต่อเนื่องและอย่างเป็นระบบ โดยนัยดังกล่าว อาชญากรรมต่อมนุษยชาติจึงเป็นการ
                   กระท าความผิดอาญาที่ร้ายแรง (very serious nature) ต่อ “กลุ่มบุคคล” “ยิ่งกว่า” การกระท าความผิด
                   อาญาต่อบุคคลในกรณีทั่วไป และมี “มิติทางกฎหมาย” ที่ “เหนือกว่า” การกระท าความผิดอาญาสามัญ
                   ทั่วไปตามความมุ่งหมายแห่งกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า “อาชญากรรม

                   ต่อมนุษยชาติ” เป็นการกระท าอันเป็น “ภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ” ซึ่งเป็น“อาชญากรรมระหว่าง
                   ประเทศ” (International     crimes) ตามกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ (Customary
                                                                                        ๒๔๒
                   International law ) ซึ่งต่างเป็น “กฎหมายบังคับเด็ดขาด” (jus cogens crimes)  ผู้กระท าความผิด
                   อาญาร้ายแรงเช่นนี้จึงสมควรต้องได้รับการลงโทษและมิอาจยกเหตุที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายภายใน
                   บังคับหรือเหตุที่ไม่มีศาลที่มีเขตอ านาจเหนือคดีเช่นนี้ขึ้นกล่าวอ้าง
                                         โดยนัยดังกล่าว อาชญากรรมต่อมนุษยชาติจึงเป็นการกระท าความผิดอาญา
                   ร้ายแรงซึ่งมีลักษณะส าคัญสี่ประการ ดังนี้

                                         ประกำรที่หนึ่ง เป็นการกระท าความผิดอาญาที่มีลักษณะร้ายแรงหรือ
                   ไร้มนุษยธรรม (inhuman acts)
                                         การกระท าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นเป็นการกระท าความผิดอาญาใดๆ
                   ที่ไร้มนุษยธรรมหรือมีผลกระทบ “อย่างร้ายแรง” ต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความปลอดภัยหรือความ

                   มั่นคงในชีวิต ร่างกาย จิตใจ สุขอนามัย หรือทรัพย์สินของบุคคล และ เช่น การฆ่าคนตาย
                   การท าลายล้าง การเอาคนลงเป็นทาส การบังคับบุคคลให้สูญหาย การข่มขืนกระท าช าเรา การบังคับให้
                   ตั้งครรภ์ การกดขี่ข่มเหงรังควานหรือกลั่นแกล้งกลุ่มบุคคลอันเนื่องจากเหตุใดเหตุหนึ่ง เช่น
                   เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ สีผิว ศาสนา หรือการเมือง ดังตัวอย่างเช่น การด าเนินการของรัฐบาลอดีตประเทศ

                   ยูโกสลาเวียในการกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) การกระท าทารุณทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการ
                                                            ๒๔๓
                   ข่มขืนสตรีจ านวนมากหรือการบังคับให้เป็นโสเภณี
                                         ประกำรที่สอง การกระท าความผิดอาญาต่างๆ ดังกล่าว “เป็นส่วนหนึ่ง” ของ

                   การโจมตีหรือการก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างหรืออย่างเป็นระบบ
                                         ประกำรที่สำม การกระท าความผิดเหล่านี้มุ่งกระทำเพื่อโจมตีหรือประทุษร้าย
                   ต่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นประชากรพลเรือนโดยตรง




                          ๒๔๒  The term “jus cogens” means “the compelling law” and, as such, a jus cogens norm

                   holds the highest hierarchical position among all other norms and principles. As a consequence of
                   that standing, jus cogens norms are deemed to be “peremptory” and non-derogable. โปรดดู M. Cherif
                   Bassiouni,  International  Crimes:  Jus  Cogens  and  Obligatio  Erga  Omnes. "  Law  and  Contemporary
                   Problems. Vol. 59, No. 4, p. 67.
                          ๒๔๓
                               โปรดดู Jordan  J.  Paust,  The  International  Criminal  Court  Does  Not  Have  Complete
                   Jurisdiction Over Customary Crimes Against Humanity And War Crimes, University of Houston Public

                   Law and Legal Theory Series 2010-A-15, p. 688.
   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135