Page 123 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 123

๑๐๖




                                                 ๒๐๘
                   ทรัพย์สิน ก าเนิด หรือสถานะอื่นๆ  นอกจากนี้ กติการะหว่างประเทศฯ ยังได้ก าหนดด้วยว่าไม่มี
                   ข้อก าหนดใดๆ ในกติกานี้ที่ให้สิทธิแก่รัฐหรือกลุ่มบุคคลใดที่จะกระท าการใดๆ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการ

                   ท าลายสิทธิและเสรีภาพ ที่ได้รับการรับรองไว้ในกติกานี้ หรือเป็นการจ ากัดสิทธิและเสรีภาพนั้น
                   เกินกว่าที่ก าหนดไว้ในกติกานี้แต่อย่างใด ในท านองเดียวกัน รัฐภาคีแห่งอนุสัญญาต่อต้าน
                   การทรมานฯ ก็มีหน้าที่ที่จะต้องท าให้เกิดความมั่นใจว่าการกระท าการทรมานในรูปแบบต่างๆ
                   เป็นความผิดตามกฎหมายอาญาของตนและจะต้องก าหนดโทษที่มีความเหมาะสมตามความร้ายแรงแห่ง
                               ๒๐๙
                   พฤติการณ์ด้วย  อีกทั้งจะต้องด าเนินมาตรการทั้งหลายที่จ าเป็นเพื่อให้ตนมีเขตอ านาจเหนือการกระท า
                                                                                      ๒๑๐
                   การทรมานที่เกิดขึ้นในอาณาเขตของรัฐนั้น หรือผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนชาติของรัฐนั้น
                                         ดังนั้น หากรัฐภาคีแห่งใดไม่ปฏิบัติตามข้อก าหนดดังกล่าวหรือยอมให้มีการ
                   ปฏิบัติฝ่าฝืนข้อก าหนดเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เจ้าพนักงานของรัฐกระท าการทรมานบุคคล

                   หรือท าให้บุคคลถึงแก่ความตายโดยอ าเภอใจหรือไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม อันเป็นการกระท าที่ขัดหรือ
                   ฝ่าฝืนต่อพันธกรณีของรัฐภาคีตามที่ก าหนดไว้ในกติกานี้ กรณีจึงเป็นเงื่อนไขที่อาจจะมีการเสนอเรื่องหรือ
                   แจ้งเรื่องไปยังองค์กรที่มีอ านาจหน้าที่ในการก ากับดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อก าหนดต่างๆ ในอนุสัญญา
                   หรือกติการระหว่างประเทศฯ โดยตรงก็ได้ ซึ่งในที่นี้ย่อมได้แก่ (๑.๒.๑) คณะกรรมการต่อต้านการทรมาน

                   ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ และ (๑.๒.๒) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่จัดตั้งขึ้นตามกติกา
                   ระหว่างประเทศฯ
                                         (๑.๒.๑) กำรเสนอเรื่องต่อคณะกรรมกำรต่อต้ำนกำรทรมำน (Committee
                   against Torture) ตำมอนุสัญญำต่อต้ำนกำรทรมำนฯ

                                         อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ ได้ก าหนดให้รัฐภาคีจัดท าและเสนอรายงานต่อ
                   คณะกรรมการต่อต้านการทรมาน (“คณะกรรมการ”) เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่ใช้บังคับเพื่อการปฏิบัติ
                   ตามอนุสัญญานี้ ทั้งนี้ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่อนุสัญญานี้มีผลใช้บังคับส าหรับรัฐภาคีที่เกี่ยวข้อง โดย
                   เสนอผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ (the  Secretary  General  of  the  United  Nations) และเสนอ

                   รายงานเพิ่มเติมทุกๆ ระยะเวลาสี่ปีเกี่ยวกับมาตรการใหม่ได้ด าเนินการไปแล้ว และรายงานอื่นใดตามที่
                                       ๒๑๑
                   คณะกรรมการร้องขอ  นอกจากนี้ เมื่อคณะกรรมการได้รับข้อสนเทศที่เชื่อถือได้ (reliable
                   information) ที่แสดงถึงข้อบ่งชี้อันควรเชื่อได้ (well - founded indications) ว่าก าลังมีการกระท าการ

                   ทรมานอย่างเป็นระบบในอาณาเขตของรัฐภาคีรัฐใดรัฐหนึ่ง คณะกรรมการอาจเชิญชวนรัฐภาคีนั้น
                                                                                                       ๒๑๒
                   ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อสนเทศดังกล่าว และให้เสนอข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อสนเทศนั้น
                   คณะกรรมการจะต้องพิจารณาข้อสังเกตต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และหากเห็นว่าเป็นการจ าเป็น คณะกรรมการ
                   อาจแต่งตั้งสมาชิกคนหนึ่งหรือหลายคนของคณะกรรมการเพื่อท าการไต่สวนในทางลับ (a  confidential






                          ๒๐๘
                              ICCPR, Article 2, paragraph 1.
                          ๒๐๙
                              CAT, Article 4.
                          ๒๑๐
                              CAT, Article 5.
                          ๒๑๑
                              CAT, Article 19, paragraph 1.
                          ๒๑๒
                              CAT, Article 20, paragraph 1.
   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128