Page 122 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 122
๑๐๕
ทั้งนี้ มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมตัวบุคคลที่รอการพิจารณาคดี เนื่องจากบุคคลที่ต้องหาว่า
กระท าความผิดอาญายังคงมีสิทธิได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ตามกฎหมาย
๒๐๓
ว่าไม่มีความผิด นอกจากนี้ กติการะหว่างประเทศฯ ยังรับรองว่าบุคคลทุกคนย่อมเสมอกันในการ
๒๐๔
พิจารณาของศาลและคณะตุลาการ และย่อมมีสิทธิได้รับการพิจารณาอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม
ในการพิจารณาคดีอาญา บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระท าความผิดย่อมมีสิทธิที่จะ
๒๐๕
ได้รับหลักประกันสิทธิขั้นต่ าโดยเสมอภาคกัน ได้แก่
- การได้รับแจ้งโดยพลันซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพและเหตุแห่งความผิดที่ถูก
กล่าวหา ในภาษาที่บุคคลนั้นเข้าใจได้
- การติดต่อทนายความที่ตนเลือกได้ และมีเวลาเพียงพอแก่การเตรียมการเพื่อ
ต่อสู้คดี
- การพิจารณาคดีจะต้องไม่ชักช้าเกินความจ าเป็น
- การพิจารณาคดีต่อหน้าตน และการต่อสู้คดีด้วยตนเอง
- การได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย ทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับการมี
ผู้ช่วยเหลือทางกฎหมาย และการได้รับความช่วยเหลือจากล่ามโดยไม่คิดมูลค่า
- การไม่ถูกบังคับให้เบิกความเป็นปรปักษ์ต่อตนเอง หรือให้รับสารภาพผิด
ค) ชั้นภำยหลังกำรพิพำกษำของศำล
บุคคลทุกคนที่ต้องค าพิพากษาลงโทษในความผิดอาญาย่อมมีสิทธิที่จะให้
๒๐๖
คณะตุลาการระดับเหนือขึ้นไปพิจารณาทบทวนการลงโทษและค าพิพากษาโดยเป็นไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้ บุคคลที่ต้องค าพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษในความผิดอาญา และ
ภายหลังจากนั้นมีการกลับค าพิพากษาที่ให้ลงโทษบุคคลนั้นหรือบุคคลนั้นได้รับการอภัยโทษ เนื่องจาก
ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการด าเนินกระบวนการยุติธรรมที่มิชอบ บุคคลที่ได้รับความทุกข์
อันเนื่องมาจากการลงโทษตามค าพิพากษาลงโทษเช่นนั้น ต้องได้รับการชดเชยตามกฎหมาย เว้นแต่จะ
๒๐๗
พิสูจน์ได้ว่าการไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงที่ยังไม่รู้ให้ทันเวลาเป็นผลจากบุคคลนั้นทั้งหมดหรือบางส่วน
(๑.๒) กำรเสนอเรื่องกำรกระท ำอันมิได้เป็นไปตำมกติกำระหว่ำงประเทศต่อ
คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนตำมกติกำนี้ หรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง
รัฐภาคีแต่ละรัฐแห่งกติการะหว่างประเทศฯ ต้องเคารพและประกัน
แก่ปัจเจกชนทั้งหลายในดินแดนของตนและภายใต้เขตอ านาจของตนเกี่ยวกับสิทธิในชีวิตร่างกาย
ของปัจเจกชนซึ่งได้รับการรับรองไว้ในกติกานี้ โดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ผิว
เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมืองหรือความคิดเห็นอื่นใด เผ่าพันธุ์แห่งชาติหรือสังคม
๒๐๓
ICCPR, Article 14, paragraph 2.
๒๐๔
ICCPR, Article 14, paragraph 1.
๒๐๕
ICCPR, Article 14, paragraph 3.
๒๐๖
ICCPR, Article 14, paragraph 5.
๒๐๗
ICCPR, Article 14, paragraph 6.