Page 110 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 110
๙๓
ไว้โดยชัดแจ้งเป็นส าคัญ มิฉะนั้นแล้ว การด าเนินมาตรการหรือการกระท าการของรัฐหรือองค์กรของรัฐ
เช่นนั้นอาจมีผลถึงขนาดเป็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลที่ได้รับผลกระทบเลยทีเดียว
โดยนัยดังกล่าว อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและ
เสรีภาพขั้นพื้นฐาน ค.ศ. ๑๙๕๐ ดังกล่าวข้างต้น ได้ก าหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับ
การด าเนินการใดๆ ที่มีผลเป็นการแทรกแซงหรือขัดต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามที่ก าหนด
ในอนุสัญญานี้ในบางกรณีไว้เป็นการเฉพาะ ตัวอย่างเช่น
■ ข้อ ๒ สิทธิในชีวิต (Right to life)
แม้ว่าอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๒ วรรคหนึ่ง จะรับรองโดยชัดแจ้งว่าสิทธิ
ในชีวิตของทุกคนจะต้องได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย และจะไม่มีบุคคลใดถูกพรากเอาชีวิตไป
โดยจงใจ
อย่างไรก็ตาม อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๒ วรรคสอง ก็ได้ก าหนดเงื่อนไขบาง
ประการอันเป็นข้อยกเว้นการคุ้มครองดังกล่าว ได้แก่
กรณีที่หนึ่ง เว้นแต่ในกรณีที่เป็นการด าเนินการลงโทษของศาลภายหลังจากที่มี
การตัดสินว่าได้กระท าความผิดอาญาและน ามาซึ่งโทษดังกล่าวตามที่กฎหมายก าหนดส าหรับความผิดนั้น
กรณีที่สอง การพรากชีวิตจะไม่ถือว่าได้กระท าโดยฝ่าฝืนต่อมาตรานี้ในกรณีที่
เป็นผลมาจากการใช้อ านาจซึ่งไม่เกินกว่าความจ าเป็นโดยสิ้นเชิงในกรณีดังต่อไปนี้ ได้แก่
- ในการคุ้มครองบุคคลใดๆ จากกการใช้ความรุนแรงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(unlawful violence) (Art. ๒, paragraph ๒ (a))
- เพื่อด าเนินการจับกุมอันชอบด้วยกฎหมาย (a lawful arrest) หรือป้องกันมิ
ให้บุคคลที่ถูกควบคุมตัวโดยชอบด้วยกฎหมายนั้นหลบหนีไป (Art. ๒, paragraph ๒ (b))
- ในการด าเนินการที่กระท าโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อปราบจลาจลหรือปราบ
กบฏ (quelling a riot or insurrection) (Art. ๒, paragraph ๒ (c))
■ ข้อ ๕ สิทธิในเสรีภำพและควำมมั่นคง (Right to liberty and
security)
อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๕ วรรคหนึ่ง รับรองโดยชัดแจ้งว่าทุกคนมีสิทธิใน
เสรีภาพและความมั่นคงของบุคคล และจะไม่มีบุคคลใดถูกพรากเสรีภาพของตนไป
อย่างไรก็ตาม อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๕ วรรคหนึ่ง ก็ได้ก าหนดเงื่อนไขบาง
ประการอันเป็นข้อยกเว้นการคุ้มครองดังกล่าว กล่าวคือ เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้และเป็นไปตาม
กระบวนการที่กฎหมายก าหนด
- การควบคุมตัวบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย (lawful detention) ภายหลัง
จากที่มีการตัดสินโดยศาลที่มีอ านาจ (Art. ๕ (a))
- การจับกุมบุคคลหรือควบคุมตัวบุคคลนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
อันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามค าสั่งศาลอันชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ใดๆ
ให้สมบูรณ์ตามที่กฎหมายก าหนด (Art. ๕ (b))
- การจับกุมบุคคลหรือควบคุมตัวบุคคลที่กระท าเพื่อวัตถุประสงค์ในการน าตัว
บุคคลนั้นมาส่งให้แก่องค์กรที่มีอ านาจตามกฎหมายด้วยมีข้อสงสัยอันมีเหตุผลสมควร