Page 112 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 112
๙๕
■ ข้อ ๑๑ เสรีภำพในกำรแสดงควำมคิดเห็น (Freedom of expression)
อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๑๑ วรรคหนึ่ง รับรองโดยชัดแจ้งว่าทุกคนมีสิทธิใน
เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น สิทธิประการนี้ยังหมายรวมถึงเสรีภาพที่จะยึดถือความคิดเห็นและ
รับและส่งข้อมูลหรือความคิด โดยปราศจากการแทรกแซงขององค์กรของรัฐและไม่ค านึงถึงพรมแดน ข้อนี้
มิได้เป็นการยกเว้นรัฐทั้งหลายจากการต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
หรือกิจการภาพยนต์
อย่างไรก็ตาม อนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ข้อ ๑๑ วรรคสอง ก็ได้ก าหนดเงื่อนไข
บางประการอันเป็นข้อจ ากัดแห่งการคุ้มครองดังกล่าว กล่าวคือ การใช้เสรีภาพประการนี้อาจตกอยู่ภายใต้
แบบ เงื่อนไข ข้อจ ากัดหรือโทษปรับตามที่กฎหมายก าหนดและเป็นการจ าเป็นในสังคมประชาธิปไตย เพื่อ
ความมั่นคงแห่งชาติ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของดินแดน (territorial integrity) ความปลอดภัยของ
ประชาชน เพื่อป้องกันความไม่สงบเรียบร้อยของประชาชนหรือการกระท าความผิดทางอาญา เพื่อการ
คุ้มครองสุขภาพหรือจิตใจ หรือเพื่อการคุ้มครองชื่อเสียงหรือสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อป้องกันการเปิดเผย
ข้อมูลที่ได้มาเป็นความลับ หรือเพื่อด ารงไว้ซึ่งอ านาจและความเป็นกลางขององค์กรตุลาการ (authority
and impartiality of the judiciary)
เมื่อได้พิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดของ
การรับรองและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในลักษณะต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว อาจกล่าวใน
ภาพรวมได้ว่ารัฐหรือองค์กรของรัฐอาจมีความจ าเป็นในบางสถานการณ์ที่จะต้องด าเนินมาตรการ
อันมีผลเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานประการหนึ่งประการใดได้ แต่อย่างไรก็ตาม
การกระท าอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะต้องเป็นการกระท าโดยชอบ
ซึ่งจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ก าหนดไว้ในอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ โดยเคร่งครัด
ซึ่งประกอบด้วยเงื่อนไขส าคัญสองประการ ได้แก่ ประการที่หนึ่ง เงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลผู้กระท าการ
อันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล และประการที่สอง เงื่อนไขเกี่ยวกับการ
กระท าอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล
■ เงื่อนไขเกี่ยวกับตัวบุคคลผู้กระท ำกำรอันเป็นกำรแทรกแซงสิทธิและ
เสรีภำพขั้นพื้นฐำนของบุคคล
เมื่อได้พิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ที่ก าหนดในข้อจ ากัดหรือข้อยกเว้นของการ
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลในกรณีต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่าบุคคล
ผู้มีอ านาจกระท าการอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานโดยมีเหตุอันชอบธรรม
ที่จะกระท าเช่นนั้นได้จ ากัดเฉพาะแต่ “องค์กรของรัฐ” หรือ “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” (public authority)
เท่านั้น ดังจะสังเกตได้ว่ามีการก าหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้
โดยชัดแจ้งในข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในบางกรณี เช่น สิทธิในการเคารพต่อ
ชีวิตส่วนตัวและชีวิตครอบครัว (Right to respect for private and family life) ข้อ ๘ วรรคสอง
ก าหนดว่าการแทรกแซงการใช้สิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลโดย “องค์กรของรัฐ” (a “public
authority”) จะกระท าได้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ก าหนด แม้ในข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดสิทธิและ
เสรีภาพขั้นพื้นฐานในกรณีอื่นจะมิได้ก าหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับองค์กรของรัฐไว้โดยชัดแจ้ง แต่เมื่อพิจารณา
เนื้อหาของการกระท าอันเป็นข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดแล้ว ย่อมจะเห็นได้ว่าบุคคลที่จะกระท าการเช่นนั้น
ย่อมจะได้แก่องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น เช่น สิทธิในชีวิต (Right to life) ข้อ ๒ วรรคหนึ่ง