Page 114 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 114
๙๗
■ เงื่อนไขเกี่ยวกับกำรกระท ำอันเป็นกำรแทรกแซงสิทธิและเสรีภำพ
ขั้นพื้นฐำนของบุคคล
การด าเนินมาตรการขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเป็น
การแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งจะถือเป็นการกระท าโดยชอบอันเข้าข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัด
ในแต่ละกรณีตามที่ก าหนดไว้ในอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ นั้น การด าเนินมาตรการเช่นนั้นจะต้องเป็นไปตาม
เงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการกระท าอันเป็นการแทรกแซงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลอีกด้วย
ซึ่งประกอบด้วยเงื่อนไขส าคัญสามประการประกอบกัน ได้แก่
ประกำรที่หนึ่ง การด าเนินมาตรการนั้นมีกฎหมายบัญญัติให้กระท าได้
เมื่อพิจารณาข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลใน
กรณีต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่าแทบจะทุกกรณี การด าเนินมาตรการขององค์กรของรัฐหรือ
เจ้าหน้าที่ของรัฐอันเป็นข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานจะกระท าได้
ก็ต่อเมื่อมีกฎหมายก าหนดให้กระท าได้เท่านั้น ทั้งนี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องย่อมจะก าหนดหลักเกณฑ์
ที่องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจะสามารถกระท าการหรือด าเนินมาตรการอันเป็นการขัดหรือจ ากัด
สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลได้ อีกทั้งยังมักจะก าหนดเงื่อนไขและวิธีการกระท าการหรือด าเนิน
มาตรการเช่นนั้นไว้โดยชัดแจ้งอีกด้วย
เหตุผลที่การกระท าขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเป็นการขัดหรือ
จ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะต้องมีกฎหมายก าหนดหรืออนุญาตให้กระท าได้นั้น ย่อม
ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “หลักความโปร่งใส” กล่าวคือ นอกจากกระบวนการในการตรากฎหมายจะได้ผ่าน
การกลั่นกรองขององค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมแล้ว บุคคลทุกคนยังสามารถที่จะตรวจดูหรือ
รับทราบข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่จะใช้บังคับแก่ตน และยังสามารถคาดหมาย
ล่วงหน้าได้ถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ตนจากการใช้บังคับกฎหมายนั้น
นอกจากนี้ กฎหมายที่ก าหนดให้องค์กรของรัฐด าเนินมาตรการอันเป็นการ
แทรกแซงหรือจ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลย่อมจะต้องก าหนด “หลักประกันสิทธิ”
ในลักษณะต่างๆ ของบุคคลผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบมิให้การกระท าการหรือการด าเนินมาตรการของ
องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปตามอ าเภอใจหรือไม่มีขอบเขตอีกด้วย
ประกำรที่สอง การด าเนินมาตรการนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ
ประโยชน์สาธารณะ
การด าเนินมาตรการขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเป็นการ
แทรกแซงหรือจ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ
ประโยชน์สาธารณะเป็นส าคัญ ดังจะสังเกตได้ว่าข้อยกเว้นหรือข้อจ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
ในทุกกรณีตามอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ จะเชื่อมโยงวัตถุประสงค์ของการกระท าเช่นนั้นกับ “ประโยชน์
สาธารณะ” เช่น เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ (national security) ความปลอดภัยของประชาชน (public
safety) หรือความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ (economic wellbeing) ของประเทศ เพื่อป้องกันความไม่สงบ
เรียบร้อยของประชาชนหรือการกระท าความผิดทางอาญา เพื่อการคุ้มครองสุขภาพหรือจิตใจ เพื่อการ
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลที่ได้มาเป็นความลับ หรือเพื่อด ารง
ไว้ซึ่งอ านาจและความเป็นกลางขององค์กรตุลาการ (authority and impartiality of the judiciary)