Page 115 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 115
๙๘
เหตุผลที่การกระท าขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเป็นการขัดหรือ
จ ากัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว ย่อมตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของ “หลักประโยชน์สาธารณะ” ซึ่งย่อมเป็นประโยชน์ของประเทศหรือของประชาชนโดยส่วนรวมที่มี
“สถานะเหนือกว่า” ประโยชน์ส่วนตัวของบุคคล
ประกำรที่สำม การด าเนินมาตรการนั้นเป็นสิ่งจ าเป็นในสังคมประชาธิปไตย
และได้สัดส่วนกับวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่มุ่งหมายนั้น
การด าเนินมาตรการขององค์กรของรัฐอันเป็นการแทรกแซงหรือจ ากัดสิทธิหรือ
เสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลจะต้องเป็น “สิ่งจ าเป็น” ในสังคมประชาธิปไตย และยังจะต้องได้สัดส่วนกับ
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่มุ่งหมายนั้นด้วย
เหตุผลของเงื่อนไขประการนี้เพื่อให้การกระท าอันเป็นการขัดหรือจ ากัดสิทธิ
และเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลโดยองค์กรของรัฐเป็นไปเฉพาะแต่ในกรณีที่จ าเป็นจริงๆ เท่านั้น ซึ่ง
กฎหมายที่ก าหนดให้องค์กรของรัฐกระท าเช่นนั้นได้ย่อมจะก าหนดหลักเกณฑ์บนพื้นฐาน
ของความจ าเป็นของการกระท าการเช่นนั้น นอกจากนี้ เหตุผลอีกประการหนึ่ง ก็คือแม้จะเป็นกรณีจ าเป็น
ตามที่กฎหมายก าหนด แต่การกระท าการเช่นนั้นจะต้องเป็นไปตาม “หลักความได้สัดส่วน” อีกด้วย
กล่าวคือ การกระท าเช่นนั้นได้กระท าอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วนเมื่อเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่มุ่ง
หมายจะได้รับและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการกระท าเช่นนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้การด าเนินการขององค์กร
ของรัฐก่อให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด
๓.๒ หลักกฎหมำยระหว่ำงประเทศที่เกี่ยวข้องกับกำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กฎหมายและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนมีเป็นจ านวน
มากดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายระหว่างประเทศที่รับรองและคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลเป็นการทั่วไป อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์แห่งวัตถุประสงค์ใน
การศึกษาค้นคว้าส าหรับงานวิจัยนี้ หลักกฎหมายระหว่างประเทศที่จะน าเสนอในส่วนนี้จะมุ่งเน้นไปที่
“ความผิดอาญาร้ายแรงระหว่างประเทศ” อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงซึ่งมิอาจถูกปล่อย
ไปโดยมิได้รับการลงโทษ เพื่อน ามาใช้วิเคราะห์หลักกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับการกระท าละเมิดสิทธิ
มนุษยชนอย่างร้ายแรงดังกล่าวต่อไป
ดังนั้น ในส่วนนี้จะได้กล่าวถึง ๓.๒.๑ ความผิดอาญาร้ายแรงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
และ ๓.๒.๒ หลักกฎหมายเกี่ยวกับความผิดอาญาร้ายแรงระหว่างประเทศ
๓.๒.๑ ควำมผิดอำญำร้ำยแรงระหว่ำงประเทศที่เกี่ยวข้อง
ความผิดอาญาร้ายแรงอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่น าเสนอในส่วนนี้ แบ่งออกได้เป็นสองลักษณะ ได้แก่ (๑) การกระท าให้
บุคคลถึงแก่ความตายโดยเจ้าพนักงาน (Extrajudicial killing) และ (๒) อาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ
(Crime against humanity)
(๑) กำรกระท ำให้บุคคลถึงแก่ควำมตำยโดยเจ้ำพนักงำน (หรือนอก
กระบวนกำรยุติธรรม) (Extrajudicial killing)
การฆ่าตัดตอน (การท าให้บุคคลถึงแก่ความตายโดยไม่ผ่านกระบวนยุติธรรม)
(summary executions) หรือการฆ่าคนตามอ าเภอใจ (arbitrary executions) เป็นหัวข้อที่มีการ