Page 51 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 51
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
กล่าวโดยสรุป ปฏิญญาริโอยังไม่ได้มีการรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมไว้โดยตรง และยังไม่มีการ
กล่าวถึงสิทธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในฐานะเป็นสิทธิมนุษยชน แต่จะเป็นการตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อม
และมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ในยุคปัจจุบันหรือชนรุ่นหลัง ตลอดจนตระหนักถึงบทบาทของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น
ซึ่งมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ ปฏิญญาริโอยังได้มีการกล่าวถึงสิทธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
เชิงกระบวนการไว้อย่างชัดแจ้ง อันเป็นสิทธิที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนไปสู่สิทธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเชิงเนื้อหาต่อไป
๒.๑.๓ บทบาทของตราสาร Soft Law ด้านสิ่งแวดล้อม ต่อพัฒนาการทางแนวคิดในการคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้ยุติลง ประเทศทั้งหลายต่างได้รับผลกระทบจากสงครามและเริ่มตระหนัก
ถึงความส�าคัญของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน น�ามาสู่การรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือ Universal
Declaration of Human Rights (UDHR) ในปี ค.ศ. ๑๙๔๘
ในยุคนั้น เป้าหมายหลักของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนคือมนุษย์ ประเด็นการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมยังไม่ถูก
กล่าวถึงในบริบทของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อมีการจัดท�าปฏิญญาสตอกโฮล์มในปี ค.ศ. ๑๙๗๒
23
การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจึงเริ่มปรากฏอย่างเด่นชัดในตราสาร Soft Law ระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ถึงแม้สถานะของ ตราสาร Soft Law จะไม่มีผลผูกพันรัฐใด แต่ปฏิญญาสตอกโฮล์มและปฏิญญาริโอ
ก็มีบทบาทส�าคัญอย่างมากต่อพัฒนาการในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับระหว่างประเทศ
และระดับภูมิภาค โดยสามารถจ�าแนกบทบาทดังกล่าวได้ ๓ ประการ ได้แก่ บทบาทต่อพัฒนาการด้านสิทธิเชิงเนื้อหา
บทบาทต่อพัฒนาการด้านสิทธิเชิงกระบวนการ และบทบาทต่อพัฒนาการด้านบทบาทและสิทธิของชนพื้นเมือง (Indigenous
Peoples)
๒.๑.๓.๑ บทบาทของตราสาร Soft Law ระหว่างประเทศต่อพัฒนาการด้านสิทธิเชิงเนื้อหา
ปฏิญญาสตอกโฮล์มเป็นตราสารระหว่างประเทศที่รับรองถึงความส�าคัญของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อ
การด�ารงชีวิตของมนุษย์ไว้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ถึงแม้ถ้อยค�าตามที่ปรากฏใน Principle 1 ยังไม่ได้ก้าวไปถึง
24
ขั้นรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมไว้เป็นการเฉพาะ แต่ปฏิญญาสตอกโฮล์มระบุชัดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมและ
25
มนุษย์ เนื่องจากสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นเงื่อนไขที่จ�าเป็นในการที่มนุษย์จะสามารถด�ารงชีวิตได้ การตระหนักถึงความส�าคัญ
ของคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่มีต่อชีวิตมนุษย์เช่นนี้เป็นการเชื่อมโยงการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเข้ากับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
โดยเฉพาะสิทธิในการมีชีวิต (Right to Life) และสิทธิในสุขภาพ (Right to Health)
ทั้งนี้ การตระหนักถึงความเชื่อมโยงดังกล่าวมิได้จ�ากัดแต่เพียงในมุมมองของกฎหมายสิ่งแวดล้อม
เท่านั้น ภายหลังการประกาศปฏิญญาสตอกโฮล์มในปี ค.ศ. ๑๙๗๒ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
23 From “The Right to a Healthy Iife or the Right to Die Polluted?: The Emergence of a Human Right to a
Healthy Environment Under International Law”, by Sumudu Atapattu (2002) Tul. Envtl. L.J., 16, 65, pp 67-68
24 หัวข้อ ๒.๑.๒.๑ ปฏิญญาสตอกโฮล์ม
25 From “The Right to a Healthy Iife or the Right to Die Polluted?: The Emergence of a Human Right to a
Healthy Environment Under International Law”, by Sumudu Atapattu (2002) Tul. Envtl. L.J., 16, 65, pp 74.
50