Page 56 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 56

ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
                                                                    เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน










                                        กล่าวโดยสรุป แม้ปัจจุบันยังไม่มีการรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมในระดับกฎหมายสิทธิ

            มนุษยชนระหว่างประเทศ แต่การที่ปฏิญญาสตอกโฮล์มกล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการ
            ด�ารงชีวิตของมนุษย์  น�ามาซึ่งความตระหนักร่วมกันถึงความส�าคัญของสิ่งแวดล้อมในเวทีกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่าง
            ประเทศ  และส่งผลให้เกิดพัฒนาการทางแนวคิดในการน�าเอากลไกทางสิทธิมนุษยชนมาใช้คุ้มครองสิ่งแวดล้อม  โดยใน

            เบื้องต้นจะผนวกเอาการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนประเภทต่าง ๆ ที่มีการยอมรับ
            และรับรองอยู่แล้ว แต่ต่อมาในบางภูมิภาค เช่น ภูมิภาคอเมริกาและภูมิภาคแอฟริกา ได้มีการบัญญัติรับรองสิทธิใน

            สิ่งแวดล้อมไว้เป็นการเฉพาะ  ส่งผลให้สิทธิในสิ่งแวดล้อมเป็นสิทธิมนุษยชนประเภทหนึ่งในภูมิภาคดังกล่าว  และการท�าลาย
            หรือท�าให้เสื่อมโทรมซึ่งสิ่งแวดล้อมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ในตัวเอง
                                        นอกจากนี้ ปฏิญญาสตอกโฮล์มยังเป็นรากฐานให้เกิดพัฒนาการทางแนวคิดในการน�าเอา

            กลไกของสิทธิเชิงกระบวนการมาใช้คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ดังสะท้อนให้เห็นในปฏิญญาริโอ ซึ่งนอกจากจะรับรองหลักการ
            และแนวคิดต่าง ๆ ของปฏิญญาสตอกโฮล์มแล้ว ยังมีการบัญญัติรับรองสิทธิเชิงกระบวนการเพื่อน�ามาใช้เป็นเครื่องมือใน
            การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย



                         ๒.๑.๓.๒ บทบาทของตราสาร Soft Law ต่อพัฒนาการด้านสิทธิเชิงกระบวนการ
                                  “สิทธิ” ประกอบด้วยสิทธิเชิงเนื้อหาและสิทธิเชิงกระบวนการ เมื่อแนวคิดเรื่องสิทธิในสิ่งแวดล้อม

            ซึ่งเป็นสิทธิเชิงเนื้อหาไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐต่าง ๆ ในการประชุมที่กรุงสตอกโฮล์ม ท�าให้นักวิชาการจ�านวนหนึ่งหันมา
            พิจารณาการน�าเอากลไกทางสิทธิมนุษยชนมาใช้เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมผ่านทางสิทธิเชิงกระบวนการ  เนื่องจากสิทธิเชิง

            กระบวนการสามารถเป็นเครื่องมือเพื่อน�าไปสู่การคุ้มครองสิทธิเชิงเนื้อหาได้ 37
                                            38
                                  ปฏิญญาริโอ   ซึ่งเป็นตราสาร  Soft  Law  ทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น
            ภายหลังปฏิญญาสตอกโฮล์มได้ยอมรับถึงความส�าคัญของการมีส่วนร่วมของสาธารณชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม  โดยใน

            Principle 10 ได้มีการบัญญัติรับรองสิทธิในกระบวนการไว้อย่างชัดแจ้ง ทั้งสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิในการมี
            ส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อม และสิทธิในการเข้าถึงความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อม

                                  สิทธิเชิงกระบวนการภายใต้ปฏิญญาริโอ ๓ ประการข้างต้นนั้น ได้มีการบัญญัติรับรองไว้ใน
            อนุสัญญาทางสิ่งแวดล้อมอีกหลายฉบับ จนน�ามาสู่การลงนามของรัฐต่าง ๆ ในอนุสัญญาว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
            การมีส่วนร่วมสาธารณะในการตัดสินใจ และการเข้าถึงความยุติธรรมในคดีสิ่งแวดล้อม หรืออนุสัญญาอาร์ฮูส 39








                    37   From “Human Rights and the Environment: What Specific Environmental Rights Have Been Recognized?”

            by Dinah Shelton (2006) Denv. J. Int’l L. & Pol’y 35, 129 (2006-2007), pp 132
                    38   Rio Declaration on Environment and Development 1992.
                    39   Convention on Access to Information, Public Participation in Decision-making and Access to Justice in

            Environmental Matters (Aarhus Convention) 1998




                                                           55
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61