Page 219 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 219

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ





          ภูมิภาคเป็นล�าดับแรกจะท�าให้เกิดความเข้าใจส�าหรับกฎหมายภายในของแต่ละประเทศต่อไปมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ

          ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่มีองค์ประกอบต่างประเทศ และเป็นกฎหมายระหว่างประเทศด้วย จะเห็นได้จากรัฐธรรมนูญ
          ของประเทศในแถบทวีปแอฟริกาต่างก็บัญญัติรับรองสิทธิในสิ่งแวดล้อมไว้ในรัฐธรรมนูญ  และมีข้อความท�านองเดียวกัน

          กับอนุสัญญาแห่งแอฟริกันว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและสิทธิของประชาชนซึ่งเป็นความพยายามของรัฐในทวีปแอฟริกาที่
          ต้องการคุ้มครองสิทธิในสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมในภูมิภาคแอฟริกามากที่สุด
                         ในการศึกษาการปรับใช้สิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาคนั้นจะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยในแง่ของวิธีการ

          ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนว่าสิทธิมนุษยชนอย่างเดียวกันกับที่ประเทศไทยคุ้มครองอยู่นั้น ในระดับภูมิภาคมีวิธีการใน
          การคุ้มครองอย่างไร ครอบคลุมเรื่องใดบ้าง การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนมีประสิทธิภาพท�าให้ประชาชนทั้งหลายในภูมิภาค
          นั้น ๆ ไม่ถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ เป็นต้น



               ๖.๕.๒ ข้อจ�ากัดการในการน�ามาปรับใช้กับกรณีของประเทศไทย
                       เนื่องจากการพิจารณาพิพากษาคดีความของศาลสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค หรือการวินิจฉัยชี้ขาด

          ข้อพิพาทของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคมีข้อจ�ากัดโดยเฉพาะเขตอ�านาจของศาลหรือคณะกรรมการ
          สิทธิมนุษยชน เช่น ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปถูกจ�ากัดในการใช้อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและพิธีสารที่

          เกี่ยวข้องในการพิจารณาพิพากษาคดีเท่านั้น จึงท�าศาลไม่อาจน�าสิทธิมนุษยชนอย่างอื่นมาปรับแก่คดีได้ หรือกรณีของ
          ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งภูมิภาคอเมริกาก็สามารถรับพิจารณาคดีได้เฉพาะบางคดีที่ไม่ได้อยู่ในอ�านาจของคณะกรรมการ
          สิทธิมนุษยชนเท่านั้น ดังนั้น ในการศึกษาคดีความต่าง ๆ จึงต้องพิจารณาข้อจ�ากัดขอบเขตอ�านาจขององค์กร และบริบทของ

          องค์การระหว่างประเทศระดับภูมิภาคด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากจะน�าบทบาทของศาล หรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
          ระดับภูมิภาคมาปรับใช้กับศาลหรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยยิ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะ

          ข้อจ�ากัดอ�านาจ บริบท และโครงสร้างในการบริหารจัดการแตกต่างกันเป็นอย่างมาก


          ๖.๖ วิเคราะห์เปรียบเทียบบทบาทขององค์การระหว่างประเทศระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับ
          การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมกับประเทศไทย



               ๖.๖.๑ บทบาทขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย

                       องค์กรหลักทางสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ได้แก่ คณะกรรมการ
          สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีสถานะเป็นองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และในปัจจุบัน
          ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่โดยผลของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่

          ๑๑/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗
                       บทบาทของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะสอดคล้อง

          กับหลักการปารีสทั้ง ๕ ประการ อย่างไรก็ดี อ�านาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
          สิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะเป็นไปในลักษณะของการให้ค�าปรึกษาหรือค�าแนะน�า
          เกี่ยวกับประเด็นทางสิทธิมนุษยชน และรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระท�าอันเป็น

          การละเมิดสิทธิมนุษยชนไว้ เพื่อด�าเนินการส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีอ�านาจ ซึ่งรวมถึง
          อ�านาจหน้าที่ในการเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครอง

          เกี่ยวกับประเด็นความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และอ�านาจในการฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหาย

                                                          218
   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223   224