Page 93 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 93

การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ และมาตรา ๑๑๖ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
        มาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ การปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังหรือถูกจ�าคุกจากการใช้เสรีภาพในการแสดงออกโดยไม่มีเงื่อนไข เป็นต้น



                 สถานการณ์โดยทั่วไปเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมหลังการเข้าควบคุมอ�านาจของ คสช.
        อาจกล่าวได้ว่า รัฐบาลมีการบังคับใช้กฎหมายในการจ�ากัดสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวอย่างเข้มข้น มีการบังคับใช้กฎหมาย
        ในลักษณะป้องปรามก่อนที่จะมีการกระท�าความผิด การแสดงความเห็นหรือวิจารณ์ คัดค้านเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะหรือ
        โครงการของรัฐที่มีผลกระทบต่อประชาชนและชุมชนถูกจ�ากัดหลายครั้งจากพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘

        และการที่เจ้าหน้าที่รัฐมีอ�านาจในการใช้ดุลพินิจอย่างกว้างขวาง ท�าให้เกิดผลการปฏิบัติหรือการบังคับใช้กฎหมายที่แตกต่างกัน


        ๓.๔.๓ สถานการณ์ปี ๒๕๕๙

                 ในปี ๒๕๕๙ ได้มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย กฎหมายและการด�าเนินการของรัฐที่มีผลกระทบต่อเสรีภาพ
        ในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมที่ส�าคัญหลายประการ ดังนี้


        ๑) พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๙
                 รัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ

        ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๙ เพื่อรองรับหน้าที่ของ
        คณะกรรมการการเลือกตั้งในการด�าเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติให้เป็นไป
        ตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยกฎหมายดังกล่าวรับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

        และเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงไว้ แต่ต้องกระท�าโดยสุจริตและ
        ไม่ขัดต่อกฎหมาย ขณะเดียวกันบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวในหมวด ๓ มีการ
                                                           ๑๐๙
        ควบคุมการออกเสียงและบทก�าหนดโทษ โดยเฉพาะมาตรา ๖๑ (๑)  ที่ห้ามมิให้
        ก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในวรรคสองได้บัญญัติห้ามมิให้ด�าเนินการเผยแพร่ข้อความ
        ภาพ เสียง ในสื่อต่าง ๆ ที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อ

        ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียงให้ถือว่าผู้นั้นกระท�าการก่อให้เกิดความวุ่นวาย
        เพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งหลังจากที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐได้รณรงค์
        ให้ประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน มีการจับกุมและด�าเนินคดีเกี่ยวกับการกระท�าที่ก่อความ

        วุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยซึ่งมีโทษทั้งจ�าคุกและปรับ โดยเฉพาะกรณีของ ประธานกองทุนรัฐวัฒน์ตัน
        มณีเพื่อสิทธิคนออทิสติก จังหวัดขอนแก่น ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กอันเป็นความผิดตามมาตรา ๖๑ (๑) หรือการแจ้งข้อหาฝ่าฝืน
        กฎหมายดังกล่าวต่อนักกิจกรรมหลายกลุ่มที่แจกแผ่นพับใบปลิวและเอกสารให้ความรู้เรื่องร่างรัฐธรรมนูญและการลงประชามติบริเวณ
        เคหะบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฝ่าฝืนค�าสั่ง คสช.ที่ ๓/๒๕๕๘ ข้อ ๑๒ เกี่ยวกับการห้ามชุมนุมทางการ
        เมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๖๑ (๑) วรรคสองและ

        วรรคสามเพิ่มเติม และต่อมาถูกน�าตัวด�าเนินคดีต่อศาลทหารกรุงเทพ (ขณะนั้น ยังอยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร)


                 นับตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) น�าเสนอร่างรัฐธรรมนูญสู่สาธารณะ

        ครั้งแรก มีการรับความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ และแก้ไขปรับปรุงจนเสร็จน�าเสนอร่างสุดท้ายสู่สาธารณะ ก่อนน�าไปลงประชามติ
        ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ พบว่า ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพโดย ไอลอว์ รายงานว่ากิจกรรมรณรงค์เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ
                                        ๑๑๐
        ยังถูกปิดกั้น - แทรกแซงอย่างน้อย ๑๙ ครั้ง  ขณะที่เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง มีการแสดงออกข้อความปรากฏอยู่บนเสื้อที่มี
        ข้อความว่า “VOTE NO ไม่รับกับอนาคตที่ไม่ได้เลือก”หรืออดีตนักการเมืองใส่เสื้อที่มีค�าว่า “รับ ไม่รับ เป็นสิทธิ์ไม่ผิดกฎหมาย” หรือ


                 ๑๐๙  จาก ตัวตนจีรพันธ์ ตันมณี รายแรกเซ่น ก.ม.ประชามติ, โดย ศูนย์ข่าวภาคอีสาน, ๒๕๕๙, สืบค้นจาก http://www.komchadluek.net/news/politic/226713
                 ๑๑๐  จาก สถานการณ์ปี ๒๕๕๙ ๔/๕: ความเงียบภายใต้อ�านาจเด็ดขาด, ๒๕๕๙, สืบค้นจาก https://freedom.ilaw.or.th/PoliticalRightandFreedoms2016/4_5


                                 รายงานผลการประเมินสถานการณ์  92  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98