Page 220 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 220

(๑) ก�าหนดให้ผู้สูงอายุมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยประเทศไทยได้ด�าเนินการให้เงิน
            ช่วยเหลือแบบขั้นบันไดตามระดับอายุแก่ผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไปทุกคน (ยกเว้นผู้ที่ได้รับเงินบ�านาญจากรัฐเป็นประจ�า

            อยู่แล้ว) เป็นเงิน ๖๐๐ - ๑,๐๐๐ บาท ต่อเดือนต่อคน โดยปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีการจ่ายเพิ่มให้จากเดิมที่จ่ายให้เป็นเงิน ๕๐๐ บาท
                                      ๔๕๐
            ต่อเดือนเท่ากันในทุกกลุ่มอายุ   รายละเอียดตามตารางที่ ๑๐

            ตารางที่ ๑๐ จ�านวนผู้ที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และงบประมาณเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙


                     ปี              จำ นวนผู้ที่ได้รับเบี้ยชีพผู้สูงอายุ (คน)  งบประมาณเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (ล้านบาท)

                   ๒๕๕๕                       ๖,๗๙๘,๘๐๒                                ๕๒,๕๓๖.๘๔

                   ๒๕๕๖                       ๗,๓๔๒,๐๒๘                                ๕๘,๓๔๗.๐๑
                   ๒๕๕๗                       ๗,๖๖๕,๘๒๙                                ๖๑,๔๐๖.๗๓

                   ๒๕๕๘                       ๗,๗๔๙,๑๓๘                                ๖๑,๘๗๙.๒๘                     สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเฉพาะ
                   ๒๕๕๙                       ๘,๐๒๑,๘๕๓                                ๖๓,๒๑๙.๔๔

                     ที่มา : กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและส�านักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานครและเทศบาลเมืองพัทยา
                     หมายเหตุ: ตั้งแต่ เดือนเมษายน ปี ๒๕๕๒ รัฐบาลจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทุกคนยกเว้นข้าราชการบ�านาญ


                     นอกจากนี้ ปี ๒๕๕๙ มีสัดส่วนผู้สูงอายุเป็นสมาชิก “กองทุนการออมแห่งชาติ” (National Savings Fund)
                                                                                                              ๔๕๑
            ร้อยละ ๑๕.๕ จากสมาชิกทั้งสิ้น จ�านวน ๕๒๔,๓๑๗ คน (ณ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙) โดยผู้อยู่ในวัยแรงงานที่มีหลักประกันด้าน

            รายได้หลังเกษียณมีประมาณ ๑๘ ล้านคน (ไม่รวมเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และกองทุนส�ารองเลี้ยงชีพบางส่วนเป็นสมาชิกกองทุน  บทที่
                                                                                                                    ๖
            ประกันสังคม) หรือร้อยละ ๕๐ ของก�าลังแรงงาน โดยผู้ไม่มีหลักประกันด้านรายได้หลังเกษียณ ส่วนใหญ่เป็นแรงงาน
            นอกระบบ ซึ่งเมื่อเกษียณอายุต้องพึ่งพิงรายได้จากบุตรหลานและเบี้ยยังชีพ  ๔๕๒


                     สถานการณ์ความรุนแรง (Violence) ในผู้สูงอายุ ปี ๒๕๕๙ รัฐมีโครงการให้บริการสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะ

            ยากล�าบาก เป็นการจ่ายเงินสงเคราะห์ให้กับผู้สูงอายุโดยช่วยเป็นเงินครั้งละไม่เกิน ๕๐๐ บาท ตามประกาศกระทรวงการ
            พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง ก�าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครอง การส่งเสริม และสนับสนุน
            การช่วยเหลือผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือถูก

            ทอดทิ้ง และการให้ค�าแนะน�าปรึกษา ด�าเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาครอบครัว และประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคม
            และความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง ก�าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครอง ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดที่พักอาศัย
            อาหารและเครื่องนุ่งห่มให้ผู้สูงอายุตามความจ�าเป็นอย่างทั่วถึงส�าหรับครอบครัวจะช่วยเป็นเงินไม่เกินวงเงินครั้งละ ๒,๐๐๐ บาท
            และช่วยได้ไม่เกิน ๓ ครั้งต่อคนต่อปี ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ มีการส่งเข้ากลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น ๖,๗๐๐ ราย  ๔๕๓
                     อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา พบว่า ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ถึง สิงหาคม

                                                                                 ๔๕๔
            พ.ศ. ๒๕๕๙ มีผู้สูงอายุสูญหายออกจากบ้านและยังคงหาไม่พบ รวมทั้งสิ้น ๑๖๔ คน   โดยมีทั้งผู้สูงอายุที่หายออกจากบ้าน
            ด้วยอาการสมองเสื่อม เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่หายออกจากบ้าน และคนที่สติปัญญามีปัญหา นอกจากนี้ ยังพบว่า สถิติการเสียชีวิต
            ของผู้สูงอายุจากการพลัดตกหกล้มยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ จากจ�านวนผู้เสียชีวิตจากการพลัดตก



                     ๔๕๐  จาก การด�าเนินงานผู้สูงอายุของประเทศไทยตามแผนปฏิบัติการระหว่างประเทศมาดริดว่าด้วยเรื่องผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๕๙, งานเดิม.
                     ๔๕๑  จัดตั้ง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อขยายโอกาสด้านการออมแก่ประชาชนวัยท�างาน (อายุระหว่าง ๑๕ - ๕๙ ปี) ที่ยังไม่มีหลักประกันรายได้เพื่อให้มีเงินบ�านาญเมื่อเข้า
            สู่วัยสูงอายุ โดยการจ่ายเงินสะสมของสมาชิก และมีรัฐบาลร่วมจ่ายเงินสมทบ โดยสมาชิกจะรับบ�านาญรายเดือนเมื่ออายุครบ ๖๐ ปี และรับต่อเนื่องจนกระทั่งเสียชีวิต
                     ๔๕๒  จาก ภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม ปี ๒๕๕๙ Social Situation and Outlook. 2560. โดย ส�านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
            ชาติ, กรุงเทพฯ: ส�านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
                     ๔๕๓  จากส�านักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ พม ๐๒๐๗/๔๐๔๘ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ขอส่งข้อมูลเพื่อประกอบการจัด
            ท�ารายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนฯ ประจ�าปี ๒๕๕๙.
                     ๔๕๔  มูลนิธิกระจกเงา


                                     รายงานผลการประเมินสถานการณ์  219  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   215   216   217   218   219   220   221   222   223   224   225