Page 211 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 211
เพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรือเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพและ
ความปลอดภัย ๔๐๓
นอกจากนี้ ยังพบข้อติดขัดในการตีความ และการบังคับใช้กฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิในการก่อตั้งครอบครัว
ของบุคคลรักเพศเดียวกัน เนื่องจากข้อก�าหนดในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ หมวด ๒ เงื่อนไขแห่งการสมรส
๔๐๔
มาตรา ๑๔๔๘ เป็นต้น
มิติที่สอง การกระท�าหรือการก�าหนด ให้เป็นการตีตราหรือเหมารวม โดยภาพรวมของสถานการณ์ด้าน
การตีตราหรือเหมารวม ยังพบการตีตราและการคุกคามทางเพศและการกระท�าความรุนแรงต่อบุคคลที่มีความหลากหลาย
ทางเพศ โดยจะเห็นสื่อที่ตอกย�้าภาพต่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในลักษณะเหมารวม มีความแตกต่างจากคนทั่วไป
๔๐๕
ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาเพศวิถี อัตลักษณ์ทางเพศ สถานะ และการแสดงออกอัตลักษณ์ทางเพศในสื่อ”
น�าเสนอว่า ร้อยละ ๖๕ ของสื่อภายในประเทศที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน เป็นรูปแบบการน�าเสนอข่าวในลักษณะที่กระตุ้นอารมณ์
โดยเฉพาะข่าวบันเทิง และไม่มีข้อมูลส�าคัญใด ๆ ให้กับสังคม แต่กลับสร้างความรุนแรง การคุกคาม การเกลียดชัง และการ
ลดทอนคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังจะพบได้จากการพาดหัวข่าวหรือขึ้นเรื่องที่ส่อเสียดในทางเพศ อาทิ ดนตรีไทย
ลดตัวคบทอม รวมถึงการน�าเสนอภาพที่สื่อนัยทางเพศ และภาพตัวแทนของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดย
เฉพาะกลุ่มชายรักชาย ที่มักจะสื่อในทางกามารมณ์ หรือความหมกหมุ่นเรื่องเพศ โรคเอดส์ หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
และอาชญากรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัย “การคุกคามทางเพศกลุ่มชายข้ามเพศ : การศึกษาเพื่อสร้างทฤษฎี
ฐานราก” ระบุว่า ที่มาของการคุกคามทางเพศกลุ่มชายข้ามเพศมาจากการท�าตนเองให้เป็นจุดสนใจและใช้เงินเพื่อซื้อ
๔๐๖
ความรัก เมื่อกลุ่มชายข้ามเพศถูกคุกคามทางเพศระดับความรุนแรงน้อยจะมักใช้การนิ่งเฉยไม่โต้ตอบ แต่เมื่อถูกคุกคาม
ทางเพศระดับความรุนแรงมากจะตอบโต้และน�าตนเองออกจากสถานการณ์นั้นทันที ทั้งนี้ เสนอให้กลุ่มชายข้ามเพศท�าตนเอง
ให้มีคุณค่า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการคุกคามทางเพศ
มิติที่สาม การยอมรับทางกฎหมายที่มีการแสดงวิถีทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ พบว่า มีกฎหมายที่มีการ
แสดงวิถีทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมในภาพรวม กล่าวคือ พระราชบัญญัติความเท่าเทียม
ระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้บัญญัติลักษณะของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือบุคคลที่มีการแสดงออกที่แตกต่าง
๔๐๗
จากเพศโดยก�าเนิดไว้อย่างชัดเจน โดยก�าหนดให้มีการคุ้มครองบุคคลดังกล่าวจากการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความ
แตกต่างทางเพศ เพศภาวะหรือเพศวิถี ในขณะที่สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ก็ผ่อนปรนหรือพิจารณาอนุญาตให้นิสิตหรือ
นักศึกษาที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศก�าเนิดหรือบุคคลข้ามเพศแต่งกายตามเพศสภาพ ณ ปัจจุบัน ในการเข้ารับพระราชทาน
๔๐๘
ปริญญาบัตรได้ โดยจะต้องเสนอเรื่องขออนุมัติจากทางมหาวิทยาลัยตามกระบวนการที่ก�าหนด ทั้งนี้ ยังไม่มีการปรับปรุง
แก้ไข กฎ ระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ๔๐๙
๔๐๓ พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ “มาตรา ๑๗ การก�าหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ ประกาศ มาตราการ โครงการหรือวิธีปฏิบัติของหน่วยงาน
ของรัฐ องค์การเอกชน หรือบุคคลใดในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศจะกระท�ามิได้ การด�าเนินการตามวรรคหนึ่ง เพื่อขจัดอุปสรรค หรือส่งเสริมให้
บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรือเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัย หรือการปฏิบัติตามหลักการทางศาสนา หรือเพื่อความมั่นคงของประเทศ
ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ”
๔๐๔ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวด ๒ เงื่อนไขแห่งการสมรส มาตรา ๑๔๔๘ บัญญัติว่า “การสมรสจะท�าได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว
แต่ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร ศาลอาจอนุญาตให้ท�าการสมรส ก่อนนั้นได้
๔๐๕ จาก วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, สืบค้นจาก www.info.ms.su.ac.th/sums01/PDF02/158_20160327_j_85.pdf
๔๐๖ แหล่งเดิม.
๔๐๗ แหล่งเดิม.
๔๐๘ อาทิ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น ทั้งนี้ กสม. ได้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎ
ระเบียบ และข้อบังคับเกี่ยวกับการแต่งกายของนักศึกษาที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศก�าเนิด โดยให้ก�าหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องการแต่งกายเข้าเรียน การเข้าสอบ ตลอดจน
การเข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งนี้ มีสถาบันการศึกษาที่อนุญาตให้นิสิตนักศึกษาข้ามเพศสามารถแต่งกายตามเพศสภาพ ณ ปัจจุบัน เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้
๔๐๙ จาก แต่งหญิงรับพระราชทานปริญญาบัตร...สัมผัสถึงความภูมิใจของ ๔ บัณฑิตเพศที่สาม ม.อุบลฯ, งานเดิม.
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 210 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙

