Page 209 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 209
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับ
ชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ โดยเฉพาะในมาตรา ๔
ซึ่งเชื่อมโยงกับเจตนารมณ์หรือหลักการด้านสิทธิมนุษยชน
ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
๓๙๘
พุทธศักราช ๒๕๕๐ ส่วนที่ ๒ ความเสมอภาค มาตรา ๓๐
และกฎหมายภายในประเทศฉบับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
อาทิ พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ
พ.ศ. ๒๕๕๘ ๓๙๙
๖.๕.๒ สถานการณ์ทั่วไป
ค�าว่า “กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ”
พัฒนามาจากกระบวนการเคลื่อนไหวของบุคคลที่มีอัตลักษณ์
ทางเพศที่แตกต่างหลากหลาย ตั้งแต่ทศวรรษที่ ๑๙๙๐
(ปี ๒๕๓๓ เป็นต้นมา) โดยน�าเสนอ อัตลักษณ์ร่วมของกลุ่ม
หญิงรักหญิง (Lesbian) ชายรักชาย (Gay) บุคคลที่รักทั้งสองเพศ
(Bisexual) และบุคคลข้ามเพศ ซึ่งมีอัตลักษณ์ของเพศวิถี
หรือการแสดงออกทางเพศตรงกันข้ามกับอัตลักษณ์ของเพศ
โดยก�าเนิด (Transgender/Transsexual) ผ่านชื่อย่อว่า
“LGBT” หรือ “GLBT” ซึ่งต่อมา มีการแสดงอัตลักษณ์
ทางเพศของกลุ่มบุคคลที่มีภาวะเพศก�าเนิดทั้ง ๒ เพศ (Intersex) และบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศแบบเลื่อนไหล (Queer)
จึงท�าให้พบการใช้ค�าว่า “LGBTIQ” ในบางพื้นที่ อนึ่ง จากการศึกษาเชิงทฤษฎีด้านสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามีการอภิปราย
ระหว่าง “กลุ่มโครงสร้างหน้าที่ (Structuralism and Functionalism)” และ “กลุ่มภาวะหลังสมัยใหม่ (Postmodernism)”
พร้อมกับการน�าเสนอ “ภาวะอ�านาจของปัจเจกในการปรับเปลี่ยนกลุ่มโครงสร้างหน้าที่ (Agency)” โดยมีการจัดการกับ
ภาวะ “โครงสร้างหน้าที่” ผ่าน “การรื้อสร้าง (Reconstruct)” และ “การรื้อท�าลาย (Deconstruct)” โดยน�ามาพิจารณา
กับกระบวนการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ท�าให้มีการปรับสร้างค�าที่ครอบคลุมลักษณะความหลากหลายทางเพศของกลุ่มคนต่าง ๆ
โดยองค์การสหประชาชาติได้รับรองค�าว่า “วิถีทางเพศ (Sexual Orientation) และอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity)”
หรือ “SOGI” เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มรักต่างเพศ และรักเพศเดียวกัน ทั้งนี้ ยังปรากฏว่า มีการ
ใช้ค�าต่าง ๆ เหล่านี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องแตกต่างหลากหลาย ทั้งตามลักษณะความรู้ ความเข้าใจ และการแสดงอัตลักษณ์ตัวตน
ตามยุทธศาสตร์ของกระบวนการเคลื่อนไหว หรือการแสดงออกที่แตกต่างกัน ในรายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
ฉบับนี้จะใช้ค�าว่า “สิทธิด้านวิถีทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ (SOGI)” เป็นหลัก
ทั้งนี้ เนื่องจาก “สิทธิด้านวิถีทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ (SOGI)” เป็นส่วนที่มีการเชื่อมต่อระหว่างอัตลักษณ์
หรือสภาวะของบุคคลในลักษณะอื่น ๆ ที่แตกต่างหลากหลาย (Intersectionality) ซึ่งท�าให้มีโอกาสที่จะเผชิญกับลักษณะ
ของ “การเลือกปฏิบัติที่ซ�้าซ้อน (Multiple Discrimination)” อันเกิดจากโครงสร้างหน้าที่หรือปัจเจกบุคคลทั่วไป ดังนั้น
๓๙๘ มาตรา ๓๐ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ บัญญัติว่า
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นก�าเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะ
ของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระท�ามิได้
มาตรการที่รัฐก�าหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรค หรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
๓๙๙ ดูรายละเอียดได้ที่ www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/018/17.PDF
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 208 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙