Page 204 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 204
อย่างเป็นทางการ (๓) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคคลใดที่ได้รับอันตรายอันเป็นผลโดยตรงจากการการบังคับให้สูญหายสามารถ
เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้ถูกบังคับให้สูญหาย ได้รับการเยียวยาที่เป็นธรรมและเพียงพอ รวมทั้งได้รับการสนับสนุน
ทางจิตใจ ทางสังคม และทางการเงินที่จ�าเป็นส�าหรับสมาชิกครอบครัวของผู้ถูกบังคับให้สูญหาย (๔) เร่งรัดกระบวนการของรัฐ
เพื่อด�าเนินการภาคยานุวัติอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ ๓๘๔
นอกจากความกังวลและข้อคิดเห็นของคณะกรรมการประจ�ากติกาฯ และคณะกรรมการประจ�าอนุสัญญาฯ ดังกล่าว
ข้างต้นแล้ว ประเทศไทยยังได้รับข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชนจากคณะท�างาน Universal Periodic Review (UPR) จาก
การเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ภายใต้กระบวนการ Universal Periodic Review (UPR)
รอบที่ ๑ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ จ�านวน ๑๗๒ ข้อ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ให้ค�ารับรอง
ข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้รับจ�านวน ๑๓๔ ข้อ ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชนที่คณะรัฐมนตรี
ไม่ได้มีมติให้ค�ารับรองมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เสนอโดยประเทศต่าง ๆ เช่น ให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติ
อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ และสอบสวนข้อกล่าวหาทั้งหมด สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเฉพาะ
เกี่ยวกับการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ให้ค�ามั่นโดยสมัครใจว่าจะเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าว
ซึ่งตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๖๑) แผนสิทธิมนุษยชนด้านกระบวนการยุติธรรมได้มี
ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการให้สัตยาบันอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคล
๓๘๕
ทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ต่อมาในการเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
ภายใต้กระบวนการ Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ประเทศไทยได้รับข้อเสนอแนะ
จากคณะท�างาน Universal Periodic Review (UPR) จ�านวน ๒๔๙ ข้อ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม
๒๕๕๙ ให้ค�ารับรองข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชนจ�านวน ๑๘๑ ข้อ รวมทั้งค�ามั่นโดยสมัครใจอีก ๗ ข้อ ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะ บทที่
๖
ด้านสิทธิมนุษยชนที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ค�ารับรองมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เสนอโดยประเทศต่าง ๆ
เช่น ด�าเนินมาตรการที่จ�าเป็นเพื่อให้สามารถให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจาก
การหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ผ่านกฎหมายภายในประเทศที่ก�าหนดโทษทางอาญาส�าหรับการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
และการทรมานและรับรองสิทธิของผู้เสียหาย ก�าหนดนิยามทางกฎหมายของการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ เร่งการผ่าน
๓๘๖
ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหายซึ่งได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เป็นต้น
จากข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยได้รับและการมีค�ามั่นเกี่ยวกับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคล
ทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามเมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ และการลงนามอนุสัญญาฯ
๓๘๗
ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศไทยที่จะไม่ด�าเนินการใด ๆ อันขัดต่อหลักการของอนุสัญญาฯ ตาม
หลักการที่ระบุไว้ในข้อ ๑๘ วรรคหนึ่ง ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา และแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุง
๓๘๘
กฎหมายภายในที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯ เพื่อคุ้มครองประชาชนมิให้ถูกละเมิดสิทธิจากการหายสาบสูญ
โดยถูกบังคับ ทั้งนี้ อนุสัญญาฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยต่อเมื่อประเทศไทยได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาฯ แล้ว ๓๘๙
๓๘๔ จาก สรุปข้อสังเกตของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในการพิจารณารายงานของประเทศไทย ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่น
ที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรี น. ๑๖ – ๑๙, โดย สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.), ๒๕๕๗
๓๘๕ จาก แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๑) (น. ๓๙), โดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม, ๒๕๕๖, กรุงเทพฯ:
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม.
๓๘๖ จาก แผนการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ไทยได้รับและค�ามั่นโดยสมัครใจของไทยภายใต้กลไก UPR รอบที่ ๒, สืบค้นจาก http://humanrights.mfa.go.th/th/
upr/report-upr-2/กระทรวงการต่างประเทศ
๓๘๗ จาก CED อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ, สืบค้นจาก http://humanrights.mfa.go.th/th/
humanrights/obligation/international-human-rights-mechanism/CED.php
๓๘๘ จาก การพิจารณาลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย (International Convention for the Protection of
all Persons from Enforced Disappearance), สืบค้นจาก http://www.cabinet.soc.go.th/soc/Program2-3.jsp?top_serl=99228692
๓๘๙ จาก ประเทศไทยลงนามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ, โดย กระทรวงการต่างประเทศ, ๒๕๕๕,
สืบค้นจาก http://humanrights.mfa.go.th/th/news/3/
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 203 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙