Page 147 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 147

๕.๒.๓ สถานการณ์ปี ๒๕๕๙
                 ในปี ๒๕๕๙ รัฐบาลได้ด�าเนินนโยบายและมาตรการส�าคัญ

        หลายประการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบ
        ที่เกิดจากการด�าเนินธุรกิจต่อสิทธิมนุษยชน อาทิ


                 กรณีการท�าประมงผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุม
        หรือไร้กฎระเบียบ (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing: IUU)

        รัฐได้ออกพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีวัตถุประสงค์หนึ่ง
        เพื่อป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมายในภาคการประมง และคุ้มครองสวัสดิภาพ
        ในการท�างานของแรงงานในภาคประมง  การใช้ระบบควบคุมการแจ้งเข้า-ออก
                                      ๒๖๖
        เรือประมง (Port in-Port out) เพื่อเป็นข้อมูลใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับ
        การท�าประมงและการจ้างแรงงานที่ถูกต้อง


                 กรณีการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ รายงานการค้ามนุษย์ปี ๒๕๕๙ กระทรวงการต่างประเทศ
        สหรัฐอเมริกาได้เลื่อนอันดับประเทศไทยจากบัญชีที่ ๓ สถานการณ์เลวร้าย (Tier 2) เป็นบัญชีที่ ๒ ซึ่งต้องจับตามอง

        (Tier 2 Watch List) เนื่องจากรัฐบาลไทยได้ด�าเนินความพยายามอย่างมีนัยส�าคัญในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ในช่วงเวลา
        การท�ารายงานจัดอันดับ อย่างไรก็ดี การด�าเนินงานนั้นยังไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต�่าสุดอย่างครบถ้วน ๒๖๗
        นอกจากนี้ ยังได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) จ�านวน ๒ ฉบับ ได้แก่ อนุสัญญาองค์การ

                                                                                                          ๒๖๘
        แรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ ๑๘๗ ว่าด้วยกรอบเชิงส่งเสริมการด�าเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ค.ศ. ๒๐๐๖
        และอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. ๒๐๐๖  ๒๖๙


                 นอกจากนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ ๒๔ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ได้ให้การรับรองเอกสารเกี่ยวกับ
        แนวทางอาเซียนส�าหรับความรับผิดชอบทางสังคมด้านแรงงาน (ASEAN Guideline for Corporate Social Responsibility

        (CSR) on Labour) ซึ่งจัดท�าโดย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยอ้างอิงจากมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.) เป็นเอกสาร
        ที่ก�าหนดแนวปฏิบัติด้าน CSR ส�าหรับภาคธุรกิจในประเทศสมาชิกอาเซียนตามความสมัครใจภายใต้กฎระเบียบภายในของ
        ประเทศสมาชิกนั้น ๆ โดยมีประเด็นข้อก�าหนด ได้แก่ แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก การจ้างงานและความสัมพันธ์ในการ

        จ้างงาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการฝึกอบรม สภาพการท�างานและการด�ารงชีวิต อุตสาหกรรมสัมพันธ์ แรงงาน
        โยกย้ายถิ่นฐาน และการพัฒนาที่ยั่งยืน


                 รัฐบาลไทย โดยกระทรวงยุติธรรมได้ด�าเนินการในการจัดให้มีแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน
        (NAP) โดยได้ออกค�าสั่งที่ ๕๕๗/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการก�าหนดแนวทางจัดท�า

        ติดตาม และประเมินผลตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan on Business
        and Human Rights - NAP) ให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๑ ตามที่ได้รับข้อเสนอแนะจากประเทศสวีเดนในกระบวน UPR
        รอบที่ ๒ โดยจะมีการส�ารวจและวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการประกอบธุรกิจในพื้นที่ต่าง ๆ

        ในช่วงปี ๒๕๖๐




                 ๒๖๖  มาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘
                 ๒๖๗  จาก รายงานค้ามนุษย์ปี ๕๙ สหรัฐอเมริกาเลื่อนอันดับไทยขึ้นบัญชี ๒ ต้องจับตา, โดย ประชาไท, ๒๕๕๙, สืบค้นจากhttps://prachatai.com/journal/2016/06/66624
                 ๒๖๘  อนุสัญญาฉบับนี้เป็นอนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๑๖ ที่ไทยให้สัตยาบัน และจะมีผลบังคับใช้ในอีก ๑๒ เดือนถัดไปนับจากวันที่ให้สัตยาบัน คือวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๐
                 ๒๖๙  อนุสัญญาฉบับนี้เป็นอนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๑๗ ที่ไทยให้สัตยาบัน และจะมีผลบังคับใช้ในอีก ๑๒ เดือนถัดไปนับจากวันที่ให้สัตยาบัน คือในวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐



                                 รายงานผลการประเมินสถานการณ์  146  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152